นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ภายหลังบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ นำร่องเปิดให้บริการระบบชำระเงินด้วยเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย หรือ Wireless Electronic Data Capture (Wireless EDC) ณ สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์บางแห่ง เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา ได้สร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จึงได้ขยายบริการไปครอบคลุมทั้งเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและเติมเต็มประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ด้วยบริการระบบชำระเงินด้วยเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย หรือ Wireless Electronic Data Capture (Wireless EDC) ที่แสนสะดวกนี้ ผู้บริโภคสามารถเติมน้ำมัน และชำระค่าน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเติมน้ำมันเสร็จ พนักงานหน้าลานนำเครื่อง Wireless EDC มาให้บริการ ณ จุดเติมน้ำมัน เพื่อทำการสแกนหรือเสียบบัตรเข้าเครื่อง ยอดการเติมน้ำมันจะปรากฏบนจอเครื่อง Wireless EDC ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบความถูกต้องและมองเห็นทุกขั้นตอน เพื่อยืนยันการชำระเงิน ด้วยความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดเวลาการให้บริการ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังสามารถสะสมคะแนนร่วมกับลอยัลตี้โปรแกรม (Loyalty Program) อาทิ TrueYou หรือ เดอะวัน ผ่านเครื่องได้ในขั้นตอนเดียว"
"ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาคาลเท็กซ์และธนาคารกรุงเทพ ได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบเทคโนโลยีด้านการรับชำระเงินแบบใหม่นี้มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดอบรมพนักงานหน้าลานให้มีความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่อง Wireless EDC และในปัจจุบัน เราได้ขยายการให้บริการระบบชำระเงินด้วยเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย ไปยังสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศ โดยคาลเท็กซ์ถือเป็นแบรนด์สถานีบริการน้ำมันรายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการชำระเงินด้วยเครื่องรูดบัตรแบบไร้สาย ณ พื้นที่จ่ายน้ำมัน ซึ่งครอบคลุมทั้งเครือข่ายในปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีเครื่องรูดบัตรแบบไร้สายมาใช้ยังช่วยให้สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์พร้อมที่จะรองรับระบบชำระเงินผ่าน QR Code และระบบชำระเงินอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย ความร่วมมือที่สำคัญในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นของความสำเร็จของการผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี และความประทับใจให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัทฯ และการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างเข้มแข็งเต็มรูปแบบด้วยกลยุทธ์ "Smart Platform" ภายใต้วิสัยทัศน์ "Smart Value for All" ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการระดับคุณภาพ และยังสอดคล้องกับทิศทางของสังคมที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศไทยได้รับการผลักดันให้ก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society อีกด้วย" นายซาลมาน กล่าว
ด้าน นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมุ่งส่งเสริมให้ระบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย (National E-Payment) เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นพัฒนาการสำคัญระหว่างธนาคารกรุงเทพและคาลเท็กซ์ ซึ่งสามารถให้บริการระบบรับชำระเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย Wireless EDC ณ พื้นที่จ่ายน้ำมัน ให้ครอบคลุมสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศไทยได้เป็นรายแรก ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำความร่วมมือระหว่างกันที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การทำธุรกรรมได้สะดวกรวดเร็ว เพราะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ ลดปัญหาการถือครองและจัดการเงินสด ทั้งยังมั่นใจได้ในความปลอดภัยของการทำธุรกรรมที่ลูกค้าสามารถติดตามได้ในทุกขั้นตอน และที่สำคัญคือตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด รวมถึงสามารถใช้ควบคู่กับระบบ Loyalty Program ที่ลูกค้าเป็นสมาชิกได้ด้วย นับเป็นบริการทางการเงินที่พัฒนาขึ้นจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
"เราร่วมกันศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาเป็นบริการใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าอยู่เสมอ หลังจากทดลองให้บริการ Wireless EDC ในบางสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์แล้วพบว่าได้รับการตอบรับที่ดี เราก็ขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รองรับระบบชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้งแบบเสียบบัตรและสแกนผ่านระบบ Contactless ซึ่งในอนาคตอันใกล้เราจะพัฒนาให้รองรับการชำระผ่าน QR Code PromptPay และ E-Wallet เพิ่มขึ้นด้วย"
นอกจากการพัฒนาระบบรับชำระเงินดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพและคาลเท็กซ์ยังได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของทั้งสององค์กรอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ "บัตรธนาคารกรุงเทพ-คาลเท็กซ์ ฟลีทการ์ด" และ "บัตรธนาคารกรุงเทพ-คาลเท็กซ์ แคชการ์ด" เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับองค์กรธุรกิจในการบริการจัดการค่าใช้จ่ายน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ได้ออกบัตรดังกล่าวแล้วมากกว่า 1 แสนใบ ขณะเดียวกันก็มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่มอบสิทธิประโยชน์อันโดดเด่นให้แก่ลูกค้าอยู่เสมอ โดยปัจจุบันลูกค้าที่เติมน้ำมันที่คาลเท็กซ์และชำระด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพอินฟินิทจะได้รับเงินคืน 10% บัตรแพลทินัม/ไทเทเนียม รับเงินคืน 3% และบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพอื่นๆ รับเงินคืน 2% ซึ่งได้รับการตอบรับจากสมาชิกผู้ถือบัตรเป็นอย่างดี
นายโชค กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมการชำระเงินผ่านรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวัน เห็นได้จากปริมาณธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดของธนาคารกรุงเทพที่ขยายตัวค่อนข้างมาก โดยเติบโตมากกว่า 110% และ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งการพัฒนาระบบ Wireless EDC ขึ้นมาจะยิ่งสนับสนุนให้เกิดการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทย์เรื่องความสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับเชฟรอน
เชฟรอนคือหนึ่งในบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยธุรกิจของเชฟรอนเกี่ยวข้องกับทุก ๆ ด้านของอุตสาหกรรมพลังงานผ่านบริษัทในเครือที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ ผลิต ขนส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ กลั่น ทำการตลาด ตลอดจนจัดส่งเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์หล่อลื่น นอกจากนี้ เรายังผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงการค้นคว้า วิจัย และ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างมูลค่าของธุรกิจในทุก ๆ ด้านของบริษัท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.chevron.com
เกี่ยวกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด
บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ชื่อเดิมคือ บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัทเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2491 โดยให้บริการน้ำมันคุณภาพภายใต้ตรา "คาลเท็กซ์" แก่ลูกค้าชาวไทยและลูกค้าเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยมานานกว่า 71 ปี บริษัทฯ จัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหลากชนิด ประกอบด้วย น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์และน้ำมันอากาศยาน นอกจากนี้ ยังจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง อาทิ น้ำมันเครื่องตระกูลเดโล่สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และน้ำมันเครื่องตระกูลฮาโวลีน สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน รวมถึงน้ำมันหล่อลื่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย
เกี่ยวกับ ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2487 ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 3,146,109 ล้านบาท (ข้อมูล ณ งวดครึ่งปีสิ้นสุด มิ.ย. 62) โดยเป็นผู้นำในภาคการธนาคารไทยสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ กลุ่ม SME รวมถึงกลุ่มลูกค้าบุคคล มีฐานลูกค้าราว 17 ล้านบัญชี สาขาภายในประเทศกว่า 1,100 แห่ง สำนักธุรกิจเพื่อให้บริการลูกค้าธุรกิจอีกกว่า 250 แห่ง ทั่วประเทศ และเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ 32 แห่ง ครอบคลุม 15 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมมีช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ประกอบด้วย บริการเอทีเอ็มที่มีกว่า 10,000 จุด บริการธนาคารอัตโนมัติที่มีเครื่องรับฝากเงินสดกว่า 1,200 เครื่อง บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ และบริการธนาคารทางโทรศัพท์ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ด้วยบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับทุกช่วงวัยของลูกค้า
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit