จากสถิติที่เกิดขึ้นและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี บริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านประกันสุขภาพระดับโลก จึงมีแนวคิดที่จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้น จัดโครงการ"ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี" ให้กับสมาชิกประกันสุขภาพเอ็ทน่า มร.นิโคลัส จอห์น พอตเตอร์ กรรมการผู้จัดการ เล่าให้ฟังว่า แม้บริษัทฯ จะให้บริการเรื่องประกันสุขภาพ แต่เราตระหนักดีว่าการมีสุขภาพดีเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น การป้องกันก่อนที่จะเจ็บป่วยจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญกับลูกค้าเช่นกัน
ตั้งแต่ปี 2010 บริษัทฯได้รณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทที่อยู่ในความดูแลด้านประกันสุขภาพกับเอ็ทน่า พบว่านอกจากจะเป็นการช่วยป้องกันโรคแล้ว ยังช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย รวมถึงการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ลดอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงลดการขาดงานของพนักงานได้อีกด้วย ดังนั้น ปีนี้จึงมีการต่อยอดแนวคิดดังกล่าว จัดเป็นโครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ จำนวน 88,000 เข็มฟรี เพื่อให้สมาชิกของบริษัทฯ เข้ารับบริการในโรงพยาบาล 59 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มภูมิคุ้มกันและลดโอกาสในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
ทั้งนี้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุเกิน 4 เดือน เป็นกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทฯ ต้องการให้เข้ารับวัคซีนมากที่สุด เพราะหญิงตั้งครรภ์ หากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จะมีอันตรายหรือถึงแก่ชีวิตมากกว่ากลุ่มเสี่ยงอื่นๆ และภูมิคุ้มกันนี้สามารถส่งต่อไปยังบุตรได้จนถึงอายุ 6 เดือน นอกจากนี้จะเป็นกลุ่มของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากกว่าช่วงอายุอื่นๆ
นพ.ธเนศ จุนเจือจาน แพทย์ที่ปรึกษาของบริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นอันดับต้น เนื่องจากเป็นวิธีการที่พิสูจน์ได้ว่าลดอัตราการเกิดโรค การนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการระบาดของไข้หวัดใหญ่มี 2 ช่วง คือฤดูฝน และฤดูหนาว โดยในปี 2019 นั้นทางบริษัทฯได้เตรียม วัคซีน Fluarix Tetra ซึ่งครอบคลุมไข้หวัดสายพันธุ์ A สองสายพันธุ์และ B สองสายพันธุ์ รวม 4 สายพันธุ์สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่เกิดจาก การติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ผ่านอาการไอ จาม พูด ลมหายใจของผู้ที่ติดเชื้อ หรือน้ำลาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการป้องกันการแพร่กระจายด้วยวิธีดังกล่าวนั้นเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ
"ส่วนวิธีการสังเกตว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ หากพบว่ามีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณหลัง ต้นขา และต้นแขน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในเด็กอาจมีอาการอาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย หากพบอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจและทำการรักษา ไข้หวัดใหญ่นั้นไม่ได้รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ส่วนยาต้านไวรัสนั้นพบเพียงแค่การลดจำนวนวันป่วยเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราควรให้ความใส่ใจในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ผ่านทางการฉีดวัคซีนจะดีกว่า" นพ.ธเนศ กล่าวในที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit