รายงานประจำปีนี้ได้สำรวจประเทศต่าง ๆ ทั้งสิ้น 13 ประเทศด้วยกัน ซึ่งจัดทำโดยเจมส์ แมคเคย์ นักวิจัยอิสระ และ 13 ประเทศดังกล่าวได้แก่แอนติกาและบาร์บูดา ออสเตรีย บัลแกเรีย กัมพูชา ไซปรัส โดมินิกา เกรเนดา จอร์แดน มอลตา เซนต์คิตส์และเนวิส เซนต์ลูเซีย ตุรกี และวานูอาตู และโดยรวมแล้วพบว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมในแง่ความโปร่งใส ประสบการณ์ และความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศในทะเลแคริบเบียนต่อยอดความสำเร็จจากรอบหลายปีที่ผ่านมาจนมาถึงปีนี้ โดยสามารถทำคะแนนนำประเทศอื่น ๆ ใน 5 หลักเกณฑ์ จาก 7 หลักเกณฑ์
โดมินิกายังคงครองตำแหน่งประเทศเจ้าของโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติที่ดีที่สุดในโลก โดยทำคะแนนได้อย่างน่าประทับใจทั้งในแง่การตรวจสอบสถานะ ประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว ความสามารถในการจับจ่าย และความน่าเชื่อถือ ขณะที่เซนต์คิตส์และเนวิส ยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับการให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่า และการขอ visa on arrival และแสดงให้เห็นถึงพันธกิจที่จะส่งเสริมการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ ส่วนเกรเนดา ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการตรวจสอบสถานะธุรกิจตามโปรแกรม แต่ก็ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากลำดับเวลาในการขอสถานะพลเมืองที่ดีขึ้น ขณะที่เซนต์ลูเซีย แซงหน้าแอนติกาและบาร์บูดาเป็นครั้งแรก โดยได้คะแนนเพิ่มขึ้นในด้านเสรีภาพในการเคลื่อนย้าย ลำดับเวลาในการขอสถานะพลเมือง และการตรวจสอบสถานะ
ความต้องการขอสถานะพลเมืองในแถบแคริบเบียนมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อความต้องการของกลุ่มบุคคลที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ (high net worth) กำลังเปลี่ยนไป ซีอีโอของธนาคารเอกชนชั้นนำระดับโลกแห่งหนึ่ง กล่าวว่า "ชาวตะวันออกกลางจำนวนมากไม่ต้องการเดินทางมายังสหรัฐ ขณะที่ชาวยุโรปก็ไม่ต้องการเดินทางมายังสหราชอาณาจักรอีกต่อไปเนื่องด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)" โดยนักวิจารณ์บางรายมองว่า ผู้ยื่นขอ CBI ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มองหาช่องทางย้ายถิ่น เพราะได้ละเมิดมาตรการควบคุมการซื้อขายที่เข้มงวดในประเทศของตน แต่นักการธนาคารเอกชนรายนี้อธิบายว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จากเขตอำนาจรัฐที่มีความผันผวนทางการเมือง อาทิ ประเทศที่อยู่ในตะวันออกกลางและแอฟริกา กำลังยื่นขอ CBI เพื่อเป็นแผน C หรือ D ในกรณีที่ "สถานการณ์ความไม่มั่นใจได้ยกระดับขึ้น หรือเกิดสงครามอย่างไม่ทันตั้งตัว"
ยูริ เบนเดอร์ บรรณาธิการนิตยสาร PWM กล่าวว่า "กลุ่มบุคคลที่มีฐานะมั่งคั่งและครอบครัว ต้องการขอสัญชาติที่ 2 โดยมีหลากหลายเหตุผลด้วยกัน ขณะที่ประโยชน์สำหรับประเทศที่เสนอโครงการ CBI นั้นก็มีมากมาย" จากมุมมองของประเทศเจ้าบ้าน ความโปร่งใสและความรับผิดชอบของกองทุน CBI เป็นส่วนสำคัญในปีนี้ โดยรายงาน CBI Index ประจำปี 2562 ระบุว่า ประเทศที่แสดงให้เห็นว่า พลเมืองโดยกำเนิดจะได้รับประโยชน์จากโปรแกรม CBI อย่างไรนั้น ทำให้นักลงทุนรู้สึกเชื่อมั่นและอยากลงทุนมากขึ้น
ในปีนี้ รายงาน CBI Index ยังเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและด้านกฎหมายมาถกกันในเรื่องความแตกต่างระหว่างความเป็นพลเมืองกับหน้าที่ในการจ่ายภาษี ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก Ernst & Young, Smith and Williamson และคุณบาลรัจ บาเทีย ผู้เป็นเนติบัณฑิตอาวุโส ต่างเห็นพ้องกันเป็นเอกฉันท์ว่า ความเป็นพลเมืองและการมีถิ่นที่อยู่นั้นมีสิทธิและหน้าที่ที่แตกต่างกันในบุคคล โดยเคียรอน ชาร์ป ซีอีโอของ FACT Due Diligence แจกแจงรายละเอียดว่าเหตุใด "การตรวจสอบสถานะอย่างละเอียด จึงเป็นหลักสำคัญของแวดวงการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ" นอกเหนือไปจากความเกี่ยวข้องในด้านชื่อเสียงและความมั่นคงที่เห็นได้ชัด
ดาวน์โหลดรายงาน CBI Index ประจำปี 2562 ฉบับสมบูรณ์ได้ฟรีที่ www.cbiindex.com
เกี่ยวกับ CBI INDEX
CBI Index เป็นรายงานฉบับครอบคลุมที่พิจารณาโครงการการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ (CBI) ที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายของรัฐบาลที่มีการดำเนินการทั้งหมดทั่วโลก รายงานดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ทุกปีโดย Professional Wealth Management นิตยสารในเครือ Financial Times ซึ่งจะทำให้กลุ่มบุคคลและกลุ่มบริษัท มีคำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้เกี่ยวกับโครงการ CBI ต่าง ๆ รวมถึงจุดแข็งในเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งนับตั้งแต่รายงานฉบับแรกออกไปในปี 2560 รายงาน CBI Index ก็กลายเป็นแหล่งข้อมูลอิสระที่น่าเชื่อถือและเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากที่สุด เกี่ยวกับโครงการในปัจจุบัน ตลอดจนประเด็นสำคัญที่มีผลต่อความสนใจของนักลงทุน และทิศทางการลงทุนเพื่อขอสัญชาติในอนาคต
ติดต่อ:
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์: www.cbiindex.com
รูปภาพ : https://mma.prnewswire.com/media/962639/2019_CBI_Index___A_Guide_to_Global_Citizenship___www_cbiindex_com_Infographic.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit