นอกจากนี้ยังมีกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBPIND) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม 2561 - 31 กรกฎาคม 2562 ในอัตรา 0.5107 บาทต่อหน่วย โดยมีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 และวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 รวมจ่ายแล้วจำนวน 0.3699 บาทต่อหน่วย คงเหลือจ่ายปันผลงวดนี้ 0.1408 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ กองทุน SCBSE จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2562) และมีผลดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายปันผลแล้ว 17 ครั้ง รวม 7.4600 บาทต่อหน่วย มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach โดยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูง ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 6.06% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562) นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวยังได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 ประเภทกองทุนตราสารทุนทั่วไป จาก Money & Banking Awards ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคารอีกด้วย
ด้านกองทุน SCBENERGY มีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 9 ครั้ง รวม 3.4200 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 7.90% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562)
ส่วนกองทุน SCBPIND นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 3 ครั้ง รวม 0.1408 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 23.91% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสิงค์โปร์ ซึ่งมีกระบวนการลงทุนโดยการคัดเลือกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ REITs ภายใต้กรอบการลงทุนคือ High Cash flow, High EPS Growth และ High Dividend Yield โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดไทยประมาณ 44% สิงคโปร์ประมาณ 47% และเงินฝากหรือสินทรัพย์อื่นอีกประมาณ 9% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 2562)
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit