นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า "KBank Private Banking ปรับกลยุทธ์ปักหมุดสู่ย่านไฮเอนด์อย่างพร้อมพงษ์ โดยมีจุดประสงค์หลักในการย้ายมาที่สำนักงานใหม่ 3 ข้อ ได้แก่ (1) รองรับการขยายตัวของพนักงานในอนาคต มีพื้นที่สำนักงานที่เป็น Hot Desk รองรับพนักงานได้สูงถึง 200 คน จากปัจจุบัน มีประมาณ 150 คน (2) เพิ่มความสุขในการทำงาน เพราะเมื่อทำงานอย่างมีความสุขแล้ว ก็จะสามารถส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า (3) ย้ายเข้ามาอยู่ในจุดที่ ลูกค้า High Net Worth Individuals มาเป็นประจำ จึงเป็นที่มาคอนเซ็ปต์ออฟฟิศใหม่ High – Net , High – Traffic ที่หมายถึงการนำตัวเอง ไปอยู่ในที่ที่ลูกค้าอยู่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ KBank Private Banking ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น"
"จุดที่ออฟฟิศใหม่ตั้งอยู่คือชั้น 42 อาคารภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ขนาดพื้นที่ 1,783 ตารางเมตร ที่มีส่วนเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ แหล่งช้อปปิ้งระดับโกลบอลแบรนด์ ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง หนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่ลูกค้าต้องมาเป็นประจำ และก็ไม่ได้มาเพื่อต้องการช้อปปิ้งหรือจับจ่ายซื้อของต่าง ๆ เหมือนก่อนหน้านี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ สถานที่พบปะสังสรรค์ รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ทำให้ธนาคารฯ ตัดสินใจที่จะย้ายออฟฟิศมาตั้งที่นี่ รวมถึงเพื่อตั้งรับสำหรับจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นภายใน 4-5 ปีนี้"
ออฟฟิศ KBank Private Banking มีความโดดเด่นและแตกต่างใน 4 เรื่อง ได้แก่
1. สถานที่ตั้ง (Location): ตั้งอยู่ในจุดที่เรียกว่า Hi – Net Central Business District เป็นที่ตั้งของแหล่งช้อปปิ้งหรูระดับ Global Brand การเดินทางสะดวกสบาย
2. การออกแบบภายใน (Interior Design): คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความต้องการของพนักงาน ความสะดวกสบายของลูกค้า ควบคู่กับความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์
3. การเลือกใช้วัสดุในออฟฟิศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Recyclable and Environmental Friendly Office Materials)
4. Retaining Talents ความภาคภูมิใจในที่ทำงาน และความสุขให้กับพนักงาน รวมทั้งดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพมาร่วมงาน
ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่าง KBank Private Banking และ Lombard Odier ตลอด 4 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ยกระดับมาตรฐานบริการให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากเรื่องการเงินการลงทุนและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ามากกว่าการสร้างผลกำไรในระยะสั้น Lombard Odier ยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องจัดการทรัพย์สินครอบครัวในมิติอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของปรัชญาการทำงานของ KBank Private Banking ที่ว่า Perfect Wealth ที่มาจาก Wealth รวมกับ Happiness คือชีวิตที่ปราศจากความกังวัล โดยความกังวลของลูกค้า ได้แก่ การเก็บรักษา สร้างความเติบโต และส่งต่อ
"ธนาคารฯ เชื่อมั่นในกลยุทธ์ในการย้ายออฟฟิศใหม่ และคาดหวังความสามารถที่จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการใกล้ชิดและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยจำนวนเศรษฐีทั่วโลก ในเอเชีย มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยคาดว่าจะมีความเติบโตของเศรษฐีตั้งแต่ปี 2018 – 2023 สูงถึง 26%* สำหรับ KBank Private Banking คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% ต่อปี" นายจิรวัฒน์ กล่าวสรุป
ปัจจุบัน KBank Private Banking มีลูกค้ากลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูงประมาณ 11,000 ราย มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการรวม 7.6 แสนล้านบาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit