แคมเปญฟลายพิ้งค์ 2019 ของแควนตัสกรุ๊ปปีนี้เปิดตัวด้วยเที่ยวบิน QF2164 ของสายการบินแควนตัสลิ้งค์จากซิดนีย์ไปพอร์ทแมคควารีที่ให้บริการโดยลูกเรือรวมถึงนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เป็นผู้รอดชีวิตจากการเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง ระหว่างเที่ยวบินมีการเสริฟน้ำแตงโม และขนมของว่างสีชมพูแก่ผู้โดยสาร พร้อมการแสดงจากศิลปิน ว๊อยซ์ 2019 (Voice 2019) นาตาช่า สจ๊วต ด้วย
มร.จอห์น กิสซิง ประธานกรรมการบริหารสายการบินแควนตัสลิ้งค์ในเครือแควนตัสกรุ๊ป เผยว่า "เราทุกคนต่างได้สัมผัสโรคมะเร็งในแง่มุมที่อาจต่างกันไป สายการบินแควนตัสลิ้งค์เราตระหนักดีถึงบทบาทของเราว่ามีความสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างครอบครัว ชุมชนและให้บริการแก่ผู้โดยสาร ฟลายพิ้งค์เป็นโอกาสและแคมเปญที่ดีในการช่วยยับยั้ง และมองดูผู้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เราจำนวนมากที่เดินทางซึ่งอาจจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
แคมเปญฟลายพิ้งค์ 2019 ปีนี้ตั้งเป้าระดมทุน 2,075,000 ล้านบาท (100,000 ออสเตรเลียดอลลาร์) เพื่อมอบให้มูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember) และมูลนิธิมะเร็งเต้านมแห่งชาติ (National Breast Cancer Foundation) ในจำนวนเท่าๆ กัน ด้วยการจำหน่ายเข็มกลัดติดเสื้อฟลายพิ้งค์ และอินทรธนูพิเศษสีชมพูที่ทำโดยนักบินภายใต้แควนตัสกรุ๊ปและสายการบินต่างๆ ทั่วโลก ส่วนดีไซน์เข็มกลัดปีนี้มีริบบิ้นสีชมพูพร้อมลวดลายหนวดของมูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember)
สำหรับแคมเปญฟลายพิ้งค์มีที่มาจากการที่กัปตันซูซาน แม็คฮาฟฟีย์ แห่งสายการบินแควนตัสลิ้งค์เริ่มแคมเปญฟลายพิ้งค์ในปีพ.ศ.2558 เพื่อระดมทุน 415,400 บาท (20,000 ออสเตรเลียดอลลาร์) สำหรับงานวิจัยมะเร็งเต้านม และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแคมเปญฟลายพิ้งค์ได้ช่วยระดมทุนให้มูลนิธิมะเร็งเต้านมแห่งชาติ (National Breast Cancer Foundation) มูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember) และองค์กรการกุศลระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องได้มากถึง 10,400,000 ล้านบาท (500,000 ออสเตรเลียดอลลาร์) สำหรับแคมเปญปีนี้จะสิ้นสุด 15 พฤศจิกายน โดยผู้สนใจทั่วไปและพนักงานสายการบินแควนตัสสามารถซื้อเข็มกลัด ส่วนนักบินสามารถร่วมบริจาคก่อนที่จะสลับจากอินทรธนูสีขาวเป็นสีชมพูในช่วงเวลาแคมเปญ
กัปตันซูซานกล่าวว่า "เราทุกคนต่างรู้จักใครสักคน สำหรับดิฉันเองนั้นมาจากการที่คุณป้าเป็นมะเร็งเต้านมและได้รับการรักษามาก่อน และในปี 2559 หลานสาวดิฉันได้วิ่งการกุศลเพื่อต่อต้านมะเร็งเต้านมพร้อมเสื้อที่มีบิ๊บหมายเลขวิ่งเสื้อพร้อมข้อความว่า "ฉันวิ่งเพื่อป้าซู" ('I'm running for Auntie Sue') หลังจากที่ดิฉันเองก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเองเช่นกัน ตลอดระยะเวลาที่เริ่มแคมเปญฟลายพิ้งค์มา พวกเราใช้เวลาเรียนรู้กับชุมชนและเครือข่ายโดยรอบที่ประสบปัญหามะเร็ง เราขอขอบคุณและชื่นชมผู้คนทุกคนที่สนับสนุน ทุกคนรวมทั้งเพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานที่สายการบินแควนตัสลิ้งค์พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน และเราบินด้วยสัญลักษณ์สีชมพูก็เพื่อพวกเขา"
ศาสตราจารย์ซาร่าห์ ฮอสกิ้ง ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิมะเร็งเต้านมแห่งชาติ (National Breast Cancer Foundation) กล่าวว่า "งานวิจัยคือหัวใจสำคัญในการหยุดยั้งการพลัดพลากจากการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก เงินที่ได้รับจากการระดมในแคมเปญฟลายพิ้งค์ครั้งนี้ทางนักวิจัยมะเร็งออสเตรเลียจะนำไปใช้พัฒนาแนวทางการรักษาและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเหล่านี้"
มร.ราเชล คาร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิโมเว็มเบอร์ (Movember) ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า "เราดีใจเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกันในแคมเปญฟลายพิ้งค์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 การติดอินทรธนูที่มีริบบิ้นสีชมพูพร้อมอยู่ด้วยก็เพื่อยกระดับการรับรู้และช่วยระดมเงินทุนสำหรับโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก พวกเราขอขอบคุณกัปตันซูซาน แม็คฮาฟฟีย์ แห่งสายการบินแควนตัสลิ้งค์ที่มีวิสัยทัศน์ดีเยี่ยมริเริ่มแคมเปญฟลายพิ้งค์ขึ้น เราจะยังคงเดินหน้าร่วมมือกันต่อไปเพื่อยกระดับการรับรู้และระดมเงินทุนเพื่อช่วยชีวิตผู้คนทั้งหญิงและชายทั่วโลกที่ประสบปัญหามะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก และในปีที่ผ่านมาสามารถระดมเงินได้ถึง 1,910,000 บาท (92,000 ออสเตรเลียดอลลาร์) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เมื่อเราทำงานร่วมกัน"
ทั้งนี้ในระหว่างแคมเปญฟลายพิ้งค์จะมีการส่งอินทรธนูที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษไปยังนักบินทั่วโลก รวมถึงนักบินใน 35 ประเทศ ที่ทำงานกับสายการบินต่างๆ กว่า 160 สายด้วย
HTML::image( HTML::image( HTML::image(