มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานศูนย์กลางรวบรวมบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขามะเร็งวิทยา ยังคงมีความมุ่งมั่นเดินหน้ารณรงค์และให้ความสำคัญกับการส่งเสริม ดูแล และให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคมะเร็งแก่ประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรกับกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้โครงการ Healthy Lung Thailand มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในพื้นที่เขตสุขภาพต่างๆทั่วประเทศไทย
ในช่วงเสวนา ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "RUN FOR LUNG: The Guardians of The Lung" ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งจาก Lung Cancer Group มะเร็งวิทยาสมาคม ได้ร่วมให้ข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ โดยนพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยว่า "มะเร็ง คือ ต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากที่สุดในโลก และเป็นโรคร้ายที่ได้ชื่อว่าคร่าชีวิตคนไทยเป็นจำนวนมาก และเป็นสาเหตุการตายสูงสุดอันดับ 1 ของคนไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังพบว่ามีแนวโน้มที่ค่อนข้างสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดสูงถึง 1.8 ล้านคน สำหรับประเทศไทย ในปี 2559 พบคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดกว่าปีละ 13,414 คน โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดอันดับ 1 มาจากการสูบบุหรี่ รวมถึงการได้รับควันบุหรี่ (สูบบุหรี่มือสอง) และมลภาวะทางอากาศ หรืออาจเกิดจากพันธุกรรมบางชนิดที่ผิดปกติ อาการโดยทั่วไปที่พบในผู้ป่วยมะเร็งปอด ได้แก่ หายใจถี่และหายใจไม่ออก มีเสียงแหบ มีอาการเจ็บหน้าอก ไอมีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ หรือมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนแรง เป็นต้น โดยการรักษาในปัจจุบันมีอยู่ 3 แนวทาง ที่ค่อนข้างจำกัด ได้แก่ การผ่าตัดในกรณีที่สามารถทำได้ จากนั้นจึงเป็นการรักษาต่อเนื่องด้วยรังสีรักษา หรือใช้ยาเคมีบำบัด หรืออาจเป็นการรักษาแบบผสมผสานมากกว่าหนึ่งวิธีขึ้นไปเพื่อหยุดการเจริญเติบโต และการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้การรักษาโรคมะเร็งด้วยยาเคมีบำบัดซึ่งเป็นรูปแบบยาฉีดเข้าหลอดเลือดนั้นอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรงในผู้ป่วยบางราย ส่งผลให้ปัจจุบันมีการพัฒนาด้านการรักษามากขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น"
ด้าน รศ.พญ.ธัญนันท์ เรืองเวทย์วัฒนา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า "ปัจจุบันผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งมีช่วงอายุที่น้อยลง อาจจะด้วยกรรมพันธุ์ หรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป และมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โรคมะเร็งนี้หากเป็นแล้วไม่เพียงสร้างความเจ็บปวดให้กับตัวผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังนำความทุกข์ทรมานใจมาสู่คนรอบข้างอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเป็นแล้วตรวจพบแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะยังมีโอกาสที่จะสามารถรักษาให้หายได้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้มีการพัฒนายา กลุ่มใหม่ๆ ใช้ได้ผลดีในมะเร็งกลุ่มที่เป็น Adenocarcinoma เพื่อให้สามารถออกฤทธิ์โดยพุ่งเป้าไปที่เซลล์มะเร็งโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า "การรักษาแบบตรงจุด หรือแบบมุ่งเป้า (Targeted therapy)" โดยยาจะเข้าไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและให้ส่งผลต่อเซลล์ปกติน้อยที่สุด ผลข้างเคียงจึงรุนแรงน้อยกว่าการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันให้ทุกคนห่างไกลจากโรคมะเร็งปอด คือ การเลิกบุหรี่ หลีกเลี่ยงกลิ่นควันบุหรี่ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมรักษาสุขภาพใจให้ดี และให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง และหากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์"
นพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการในวันนี้ว่า "เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนแห่งการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด ทางมะเร็งวิทยาสมาคมจึงได้จัดกิจกรรม "RUN FOR LUNG: The Guardians of The Lung" วิ่ง Virtual Run เพื่อการกุศล เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Healthy Lung Thailand ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ ตื่นตัวและตระหนักในการดูแล และใส่ใจตนเอง เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปอด รวมทั้งสร้างกระแสให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพิ่มการเคลื่อนไหว และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ภายในโครงการยังสอดแทรกการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจให้ประชาชนชาวไทยรู้เท่าทันโรคมะเร็งปอด และรายได้จากการวิ่งในครั้งนี้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปเข้าสมทบทุน เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนางานวิจัย พร้อมยกระดับการพัฒนาองค์ความรู้ การจัดการด้านการดูแลรักษา และเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางการแพทย์ในการรักษาโรคมะเร็งปอด ตลอดจนการเข้าถึงการรักษาที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วยไทย"
อนึ่ง "RUN FOR LUNG: The Guardians of The Lung" ในครั้งนี้เป็นการวิ่งแบบ Virtual Run เก็บสะสมระยะทาง โดยแบ่งระยะทางการวิ่งในครั้งนี้เป็น 3 ระยะ คือ 30 / 100 / 300 กิโลเมตร โดยเริ่มวิ่งในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 - วันที่ 31 มกราคม 2563 (เวลา 23.59 น.) เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 7 ธันวาคม 2562 ค่าสมัคร 349 บาท ทุกระยะวิ่ง โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับเสื้อวิ่ง และเหรียญรางวัล โดยสามารถสมัครผ่านช่องทาง @runforlung และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Runforlung:The Guardians of the Lung หรือ โทร. 062-7536644 (คุณกรกนก)
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit