โดยในวันนี้ (8 พ.ย. 62) นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนให้กับ 5 โรงเรียนในจังหวัดนครพนม ณ โรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซี้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบัน มีจำนวนนักเรียน 166 คน
นายนิติพัฒน์ กล่าวว่า ภาครัฐตระหนักถึงปัญหาทุพโภชนาการของนักเรียนในถิ่นทุรกันดารและในพื้นที่ห่างไกล ที่ต้องการการสนับสนุน ในโอกาสนี้ขอขอบคุณที่ภาคเอกชนโดย JCC ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ให้ความสำคัญและห่วงใยในสุขภาพของเด็กและเยาวชนไทยด้วยการสนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนที่เป็นอนาคตของประเทศ ได้บริโภคอาหารโปรตีนคุณภาพดี คือ ไข่ไก่ อย่างเพียงพอ อิ่มท้อง สมองแจ่มใส และหวังว่าโรงเรียนที่ได้รับโอกาสดีๆ จะสามารถดำเนินการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน เป็นแบบอย่างให้แก่โรงเรียนอื่นๆ ต่อไป
"ในนามของประชาชนนครพนม ขอขอบคุณสำหรับการมอบสิ่งดีๆ ให้แก่ชาวนครพนม เด็กและเยาวชนในชนบท หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้ จะเกิดประโยชน์ต่อนักเรียน โรงเรียน ชุมชน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป" ปลัดจังหวัดนครพนมกล่าว
มร. โชอิจิ โอกิวาร่า ประธานส่วนการศึกษา คณะกรรมการฝ่ายความช่วยเหลือสังคม JCC กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสร่วมส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ทำให้เด็กนักเรียนได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารกลางวัน และยังเป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีพระราชประสงค์ที่จะให้ขยายโครงการไปทั่วประเทศ โดยปีนี้ครบรอบ 20 ปีที่ JCC ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรดำเนินโครงการ ให้การสนับสนุนโรงเรียนไปแล้วรวม 127 โรงเรียน จำนวนนักเรียน 35,941 คน ครอบคลุม 40 จังหวัด คิดเป็นมูลค่า 28.50 ล้านบาท
"JCC ตระหนักถึงความสำคัญของอาหารกลางวันนักเรียนที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชนให้แข็งแรง และสนับสนุนให้เกิดการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน จึงได้สนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญโครงการนี้ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการจากการลงมือปฏิบัติจริง" ประธานส่วนการศึกษา คณะกรรมการฝ่ายความช่วยเหลือสังคม JCC กล่าว
ด้าน นายชาญชัย หีบสัมฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ ใน 3 ด้านหลัก เพื่อให้โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นโครงการตัวอย่างของความยั่งยืน คือ 1. การให้ความรู้ ให้คำปรึกษาการเลี้ยงและการบริหารจัดการ จัดทำคู่มือการเลี้ยงไก่ไข่สำหรับครูและนักเรียน เพื่อให้เลี้ยงและจัดการได้อย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามหลักวิชาการและการสุขาภิบาล 2. สนับสนุนปัจจัยการผลิต ได้แก่ พันธุ์สัตว์ และอาหารสัตว์ ให้กับโรงเรียนผ่านระบบสมาชิกโครงการ และ 3. ร่วมติดตามโครงการฯ โดยเจ้าหน้าที่สัตวบาลจะไปเยี่ยมโรงเรียนในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง
"โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" ภายใต้ความร่วมมือของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ซีพีเอฟ และสพฐ. น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงห่วงในภาวะโภชนาการของเด็กนักเรียนและเยาวชนมาดำเนินการ ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 30 มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 777 โรงเรียน โดยเมื่อปี 2543 หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ ซึ่งมีเจตนารมณ์สอดคล้องกัน เข้าร่วมสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 20 แล้ว
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit