ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เปิดเผยถึง แผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ BC ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม มีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยคาดว่า BC จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ในการเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง
ทั้งนี้ BC เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 167 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น กำหนดราคาไอพีโอ 2.86 บาทต่อหุ้น มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BC จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
"ผลตอบรับในการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ BC ในครั้งนี้ คาดมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ BOS
ซึ่งยังไม่มีคู่แข่งทางตรงในธุรกิจ และถือเป็นธุรกิจที่ใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ประกอบกับ การตั้งราคาไอพีโอที่ 2.86 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/BV (Pre-IPO) ที่ 1.66 เท่า และคิดเป็นส่วนลด 40% จาก P/BV เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ 2.75 เท่า ซึ่งเป็นระดับราคาที่น่าสนใจอย่างมาก จึงเชื่อว่า BC จะเป็นอีกหุ้นเด่นพื้นฐานดีที่นักลงทุนจับตามอง" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสร้าง – ดำเนินงาน – ขาย (Build-Operate-Sell : BOS) รวมทั้ง ธุรกิจให้บริการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้การตอบรับในวันจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทฯ สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจ โดยวางเป้าหมาย BC เป็นหุ้น Growth Stock ที่มีการเติบโตที่ดี จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่หลากหลาย อย่างมีประสิทธิภาพ และธุรกิจ BOS มีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง
ประกอบกับโครงการในมือที่แข็งแกร่ง ปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Operate) จำนวน 9 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา (Build) จำนวน 8 โครงการ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้เพิ่มเติม 1 โครงการ ส่วนที่เหลือจะทยอยแล้วเสร็จไปจนถึงปี 2563 เข้ามาสนับสนุนผลประกอบการให้มั่นคงยิ่งขึ้น และคาดว่า ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ก่อนหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวนประมาณ 477 ล้านบาท จะนำไปใช้ขยายธุรกิจ ลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนประมาณ 150 ล้านบาท ใช้จ่ายคืนหนี้สินประมาณ 275 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 52 ล้านบาท ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณในปี 2562-2563
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit