นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทจะประกาศวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ และปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหม่อีกครั้งนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 40 ปี เพื่อสร้างการเติบโตแบบ New S – Curve ให้กับองค์กร ด้วยการก้าวสู่การเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยฐานข้อมูล หรือ Data Driven นำระบบ AI และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) เพื่อนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าและบริการ (Productivity) พร้อมกับเพิ่มโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือMPC) ถือเป็น Business Model ใหม่ ภายใต้แนวคิด "ทำธุรกิจใหม่ ไร้กรอบ" ที่ทำให้อาร์เอสทะยานเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย (MPC) สร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเม็ดเงินโฆษณาที่ยังซบเซา แต่ก็ยังสามารถสร้างฐานลูกค้า (Data Base) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดย 9 เดือนแรกปี 2562 ธุรกิจ MPC สามารถทำยอดขายสูงถึง 1,550 ล้านบาท และในไตรมาสที่ 3 ทำรายได้พุ่ง 887 ล้านบาท ส่งผลกำไรที่ 92 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4 จะฟื้นตัวดี เพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาล อีกทั้งชิงจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายร่วมกับช่องทีวีพันธมิตร
"จากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลายวงการ (กลุ่ม BTS, VGI, เวิร์คพอยท์ทีวี, ไทยรัฐทีวี) จะเป็นสปริงบอร์ดที่ทำให้อาร์เอสจะเติบโตเร็วและยิ่งใหญ่แบบ New S – Curve ซึ่งจะเริ่มขึ้นในปี 2563 นี้ ถือเป็นจังหวะที่ดีของบริษัท ก้าวเข้าสู่เฟส 2 ในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่า New S – Curve นี้ จะไม่เพียงแต่สร้างเสถียรภาพการเติบโตในระยะ 5 ปี แต่จะทำให้แบรนด์ธุรกิจ MPC เติบโตกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับจุดแข็งในเรื่องคอนเทนต์บันเทิง และงานครีเอทีฟ จะผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัททำรายได้ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ด้วยกลยุทธ์ Data Driven จากฐานข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาล" นายสุรชัยกล่าว
ปี 2563 บริษัทชูกลยุทธ์ Data Driven รุกหนักการบริหารฐานข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจโดยเฉพาะการนำระบบ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) และ Business Intelligence Tool เข้ามาประยุกต์ใช้วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ ปัจจุบันฐานข้อมูลลูกค้าเฉพาะของบริษัทมีประมาณ 1.3 ล้านราย ขณะที่จากความร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มทีวีดิจิทัล ปัจจุบันมี 2 ช่อง ได้แก่ ไทยรัฐทีวี เวิร์คพอยท์ และจะประกาศความร่วมมือกับทีวีดิจิทัลอีก 1 ช่องในช่วงปลายปีนี้ เมื่อรวมกับช่อง 8 รวมเป็นทั้งหมด 4 ช่อง จะเข้าถึงผู้ชมประมาณ 40 ล้านคนต่อวัน โดยเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปนอกจากนี้ความร่วมมือกับกลุ่ม บีทีเอสจะทำให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าคนเมือง ประมาณ 10 ล้านคนต่อวัน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ อายุ 25 ปีขึ้นไป รวมทั้งยังมีการขายผ่านพนักงานขายทางโทรศัพท์ หรือเทเลเซลล์ อีกจำนวน 500 คน ที่คอยให้บริการลูกค้าตลอด24 ชั่วโมง ถือเป็นจุดแข็งที่มีศักยภาพของ RS
นอกจากนี้ ในปี 2563 อาร์เอสได้วางแผนเพื่อขยายเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ "RS Mall" เพื่อขยับแนวรุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ รวมทั้งขยายเข้าสู่ช่องทาง Line @ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคนในประเทศไทย โดยเปิด Official page บนแพลตฟอร์ม RS Mall จึงเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าและบริการทุกอย่างที่มีความพร้อม
"ทั้งนี้ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร และสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยฐานข้อมูล คาดว่าจะทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 และเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันรายได้สู่เป้าหมาย 10,000 ล้านบาท ในปี 2565 ตามวิชั่นที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน" นายสุรชัยกล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit