CPT โชว์ผลงาน Q3/62 ฟื้น กำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท คาดยอดขายไตรมาสสุดท้ายสูงสุดในรอบปี เดินหน้าปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรหลังได้ซีอีโอใหม่

14 Nov 2019
'บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์' หรือ CPT โชว์ผลงานไตรมาส 3/2562 ฟื้นตัว มีกำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท และรายได้รวม 178.25 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ด้านซีอีโอคนใหม่ลุยปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร รุกขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มมาตรการในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คาดยอดขายไตรมาส 4/2562 สูงสุดในรอบปี ผลักดันผลการดำเนินงานให้ฟื้นตัว หลังเห็นสัญญาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
CPT โชว์ผลงาน Q3/62 ฟื้น กำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท คาดยอดขายไตรมาสสุดท้ายสูงสุดในรอบปี เดินหน้าปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรหลังได้ซีอีโอใหม่

นายชัยยศ ปิยะวรรณรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/62 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้รวม 178.25 ล้านบาท และกลับมามีกำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน เนื่องจากได้ปรับกลยุทธ์เร่งเพิ่มยอดขายสินค้าและรายได้จากบริการรับเหมาและติดตั้ง

ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 419.38 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 5.88 ล้านบาท โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นของผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หลังจากได้วางแผนปรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กร เพื่อเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าและบริการทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก (Heavy Industry) ที่มีความต้องการใช้ระบบไฟฟ้าเพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะเห็นแนวโน้มยอดขายที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท และในปัจจุบันมีงานที่รอการตัดสินใจจากลูกค้าอยู่ไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้

"คาดว่ายอดขายในไตรมาส 4/62 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ หลังมีคำสั่งซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ประกอบกับหลังเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ ได้วางแผนปรับกลยุทธ์ขององค์กรภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว อาทิ การเพิ่มคำสั่งซื้อจากฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ พร้อมศึกษาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายการลงทุน ตลอดจนเพิ่มมาตรการในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายชัยยศ กล่าว