“พีเอ็นเอ็น แค็ปปิตอล” สบช่องบาทแข็ง เปิดเมกะโปรเจคปิดท้ายไตรมาส 4 ชวนนักลงทุนไทยบุกตลาดอสังหาฯ UK ลุย 10 โครงการใหญ่รับผลตอบแทนสูงสุด 10% ต่อปี

นางสาวดาว ไวรักษ์สัตว์ ผู้อำนวยการประจำสหราชอาณาจักร บริษัท พี เอ็น เอ็น แค็ปปิตอล จำกัด หรือ PNN เปิดเผยว่า PNN Capital เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนในระดับสูง โดยมีการรับรองจากศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาประเทศไทย กระทรวงการคลัง เป็นเครื่องยืนยัน อีกทั้งนอกจากงานด้านที่ปรึกษาแล้ว บริษัทยังได้ขยาย Business Unit ใหม่ ในการดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอีกด้วย โดยจะเน้นไปในอสังหาฯ ในประเทศแถบยุโรป เช่น ประเทศอังกฤษ, ฝรั่งเศส

จุดแข็งของ PNN Capital จะอยู่ที่การดำเนินงานโดยเน้นความมั่นคงเป็นหลัก จากการเลือกลงทุนกับพาร์ทเนอร์ที่เป็น Developer ระดับโลก มีการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง และมีประสบการณ์ Management โครงการในระดับสูง และมีสาขาดูแลจัดการในหลายประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งทีม PNN ขึ้นประจำการในสหราชอาณาจักร เพื่อสามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลอสังหาฯ ได้อย่างใกล้ชิด พร้อมมีการดูแล และประสานงานกับเจ้าของโครงการ รวมทั้งตรวจสอบความคืบหน้าของแต่ละโครงการได้จากสถานที่สร้างจริง

ในปัจจุบัน PNN Capital มีอสังหาริมทรัพย์ที่ดูแลอยู่ในมือมากกว่า 10 โครงการ จำนวนมากกว่า 1,000 ยูนิต อาทิ คอนโดมีเนียมหรู, โรงแรม, รีสอร์ท, หอพักนักศึกษา รวมถึงมีบริการจัดหาอสังหาฯ ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งโครงการอสังหาฯ แต่ละโครงการที่ PNN ดูแลและนำเสนอนั้น จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน และมีหลากหลายรูปแบบการลงทุน แต่จะเน้นไปที่คุณภาพของโครงการและความคุ้มค่าในการลงทุน โดยจะมีผลตอบแทนเฉลี่ยสุทธิอยู่ที่ 6.5-10% ต่อปี ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี, สิทธิการถือครองในอสังหาฯ สูงสุดกว่า 999 ปี, การรับประกันผลตอบแทน รวมถึงสัญญาการซื้อคืน ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับการลงทุนในธุรกิจอื่น และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 นี้ PNN Capital จะนำเสนอโครงการที่ถือเป็น Hot Spot ของ UK ตั้งอยู่ในเมืองที่กำลังเติบโตและมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ทั้งยังให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจคือ 6.5-10% ต่อปี อาทิ โครงการ Vita Student Cardiff ที่พักนักศึกษาที่มีอัตราการจองล่วงหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ในเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาต่างชาติในการเข้าเรียนต่อมากที่สุดเมืองหนึ่ง ในทำเลที่ห้อมล้อมด้วยมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง, โครงการ No.7 Phase 2 โรงแรมติดชายหาด ในเมือง BlackPool เมืองตากอากาศตอนกลางถึงตอนเหนือของอังกฤษ, โครงการ Elizabeth Tower คอนโดหรู 52 ชั้น ตั้งอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์, โครงการ Chancery Quaters London อพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวในกรุงลอนดอน ที่สามารถเดินไปมหาวิทยาลัย King's Collage ในเวลาเพียง 3 นาที และใกล้สถานที่สำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง ถือเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัยและปล่อยเช่า รวมถึงอีก 2 โครงการสำคัญในเมืองท่า Liverpool อย่าง Infinity Waters และ Aura ที่สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้หลายรูปแบบ รวมถึงการันตีผลตอบแทนที่สูง ทั้งยังมีอัตรารับซื้อคืนในราคาสูงเมื่อถือครองครบตามระยะเวลาที่กำหนด

นางสาวดาว ไวรักษ์สัตว์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเวลาต่อจากนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุด โดยเฉพาะใน UK ที่ช่วงนี้ถือเป็น Golden Time ของนักลงทุน เพราะมีปัจจัยในด้านบวกเอื้อให้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ราคาคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ในอังกฤษที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ย 3-5% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งตัวสูงสุดทำลายสถิติในรอบ 6 ปี รวมถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในลอนดอนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตของเงินทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งยังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 15% ภายในปี 2021 โดยกฎหมายก็เอื้ออำนวยเปิดให้คนต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์แบบเช่าซื้อนานถึง 999 ปี อีกทั้งกลุ่มผู้บริโภค ยังมีพฤติกรรมต่อความต้องการเช่าที่สูงขึ้น โดยคนรุ่นใหม่ทั้งคนอังกฤษและชาวต่างชาติ ที่อายุไม่เกิน 40 ปี เลือกที่จะเช่ามากกว่าการซื้อ 45% ค่าประเมินดีมานด์ต่อปีมีถึง 360,000 ยูนิต ทางเลือกซื้อลงทุนในระยะยาวจึงเป็นหัวข้อที่ตอบโจทย์สถานการณ์โดยรวมในช่วงนี้

นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์ Brexit ยังช่วยเอื้อให้นักลงทุนได้ประโยชน์จาก Capital Gain ในอนาคต จากอัตราการเติบโตของที่อยู่อาศัยในประเทศอังกฤษ และการขยายเส้นทางคมนาคมจากลอนดอนไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งหลายบริษัทได้ย้ายที่ทำการไปตั้งอยู่ รวมถึงอัตราการเติบโตของหอพักนักศึกษา ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากค่านิยมในการส่งบุตรหลานมาศึกษาต่อในประเทศอังกฤษที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากประเทศอังกฤษมีแหล่งรวมของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยสถิติจากตลาดนักศึกษาเช่าในอังกฤษ พบว่าปัจจุบันมีนักเรียน-นักศึกษาไทยในอังกฤษราว 6,095 คน นักศึกษาจีน 91,215 คน นักศึกษานอกสหภาพยุโรป 310,575 คน จึงนับได้ว่ามีกลุ่มเป้าหมายรองรับมากพอที่จะลดค่าความเสี่ยงในการลงทุน

อีกทั้งการเลือกลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังนับเป็นความคุ้มค่าของนักลงทุนที่มีแผนในการส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อในต่างประเทศอีกด้วย เพราะอสังหาฯ เหล่านี้จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังสามารถส่งต่อในฐานะมรดกที่สร้างรายได้อย่างมั่งคงในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนด้านอสังหาฯ จะเป็นวิธีการดูแลเงินต้นได้แบบปลอดภัย และให้ผลตอบแทนที่สูง สามารถจับต้องได้ รับรองทรัพย์สินในมือจากสัญญาในรูปแบบบริษัท การันตีทั้งผลตอบแทนและการซื้อคืน โดยจากประสบการณ์ของ PNN Capital ที่อยู่ในวงการอสังหาฯ มามากกว่า 10 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ทุกปี จนได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากนักลงทุนทั่วโลก จนเราสามารถรับประกันได้ว่า เงินที่ลงทุนได้จะมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

"เพื่อแสดงภาพความชัดเจนในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ PNN Capital จึงได้จัดสัมมนา 'PNN Capital: Future-Proof The UK Property Investment' ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019 เวลา 10.00-15.00 น. แบ่งเป็นภาคเช้า 10.00-12.30 น. และภาคบ่าย 13.30-15.00 น. ณ โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit Bangkok ห้องสุขุมวิท ชั้น 2 โดยภายในงานสัมมนา ผู้เข้าร่วมจะได้พบกับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย อาทิ โปรเจคโครงการ UK Property ที่ให้ผลตอบแทนสุทธิ 10% ต่อปี, มอบส่วนลดสูงสุดถึง 400,000 บาท และสิทธิ์ Buy Back สูงถึง 120% โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-643-0744 หรือ Line: @pnncapital Inbox :facebook.com/pnncapital." นางสาวดาว ไวรักษ์สัตว์ กล่าวทิ้งท้าย

• ข่าวคอนโด
• ข่าวคอนโดฯ
• ข่าวสหราชอาณาจักร
• ข่าวอพาร์ทเม้นท์