นางปะราลี กล่าวว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญและส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่สนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนในตลาดทุน อีกทั้ง ก.ล.ต. ยังเป็นหนึ่งในองค์กรภาครัฐที่ได้รับมอบหมายตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 - 2565) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ให้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจในตลาดทุนดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรมตามหลักการของ UNGPs ในด้านเสาหลักที่ 1 ว่าด้วยหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครอง
"ในยุคที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหาและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจส่งผลกระทบให้การดำเนินธุรกิจมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งที่เกิดกับองค์กรของตนเองโดยตรงและองค์กรอื่นที่เกี่ยวเนื่องกันทางธุรกิจ (Supply Chain) ซึ่งการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนจะเป็นการป้องกันผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจได้" นางปะราลี กล่าว