มร.แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า บริติช เคานซิล ประเทศไทย เดินหน้าโครงการ University – Industry Links เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและภาคธุรกิจ โดยร่วมมือกับ เมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) ผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไทย เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งในสหราชอาณาจักร มีความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์เปอร์ อดัมส์ (Harper Adams University) กับบริษัทซาปูโต แดรี่ ยูเค (Saputo Dairy UK) บริษัทผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของอังกฤษ ที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยนวัตกรรมอาหารขึ้นในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย นำไปสู่การพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าโดยใช้งานวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุน ในขณะเดียวกันนักศึกษาก็จะได้เรียนรู้ทักษะที่ประยุกต์ใช้จริงในธุรกิจ
มร.แอนดรูว์ กล่าวเพิ่มว่า ในปีที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกันเมืองนวัตกรรมอาหารอย่างใกล้ชิด โดยเน้นไปที่การแชร์องค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ และแนะนำรูปแบบการทำงานที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปรับใช้และพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในระดับการวางโรดแมปอุตสาหกรรมอาหารในระยะยาว ผ่านโครงการมองอนาคตอุตสาหกรรมอาหาร (Foresight for Food) ด้วยการแชร์องค์ความรู้การมองอนาคตจากผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ เพื่อเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ให้กับบุคลากรที่ทำงานด้านนโยบายของอุตสาหกรรมอาหาร และในระดับการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจในอุตสาหกรรม ผ่านโครงการประเมินคุณภาพทางสัมผัสและพฤติกรรมผู้บริโภค (Sensory and Consumer Behaviours) ด้วยการแนะนำองค์ความรู้ด้านการวิเคราะห์ประสาทสัมผัสเพื่อการพัฒนาอาหาร โดยได้ยกตัวอย่าง 2 นวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรได้ทำงานวิจัยต่อยอด เพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพอาหารด้วยหลักการตลาดโดยใช้ประสาทวิทยา (neuroscience marketing) ได้แก่ ห้องทดสอบรูป รส กลิ่นของอาหาร (Sensory Testing Room) และแว่นตาตรวจจับโฟกัสสายตา (Eye Tracking Glasses)
ด้าน ดร. อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ผู้อำนวยการโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร กล่าวว่า หลังจากได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบริติช เคานซิล และได้ร่วมทำเวิร์คช็อปการมองอนาคต (Foresight) กับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ เมืองนวัตกรรมได้นำองค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาเป็น 4 กลยุทธ์ของโรดแมปพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ 1) สร้างแพลตฟอร์มระดับชาติเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและยั่งยืน 2) ลงทุนกับงานวิจัยและนวัตกรรมด้านอาหารเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมไปถึงนวัตกรรมอาหารที่ทันสมัยและยั่งยืน 3) สร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี จากระดับท้องถิ่นสู่ระดับนานาชาติ และ 4) ส่งเสริมภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของอาหารไทยในระดับนานาชาติ ซึ่งนอกจากการวางกลยุทธ์ของโรดแมปอุตสาหกรรมอาหารประเทศไทยแล้ว องค์ความรู้ด้านการมองอนาคต (Foresight) จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ในกรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน หรือ ASEAN Framework อีกด้วย
นอกจากนี้ หลังจากที่ได้ศึกษารูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักรในประเด็นการประเมินคุณภาพทางสัมผัสและพฤติกรรมผู้บริโภค เมืองนวัตกรรมอาหาร ได้ร่วมผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในประเทศไทย อย่างเช่น ความร่วมมือกันของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการแชร์องค์ความรู้ด้านการประเมินประสาทสัมผัสขั้นสูง (advance sensory evaluation) และการสนับสนุนของเอ็มเค เรสโตรองค์ กรุ๊ป ในการพัฒนาห้องปฏิบัติการด้านประสาทสัมผัส (sensory lab) ตามโมเดลของอังกฤษ และแบ่งปันพื้นที่นี้แก่มหาวิทยาลัยไทยเพื่อใช้ศึกษาเรียนรู้ และพัฒนางานวิจัย รวมไปถึงยังมีอีกหลากหลายมหาวิทยาลัยที่มีแผนในการประยุกต์ใช้ศาสตร์ด้านประสาทวิทยาเพื่อใช้เป็นหลักในการพัฒนาอาหารจากพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัญญานที่ดีของการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยไปอีกขั้นหนึ่ง ดร.อัครวิทย์ กล่าวสรุป
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ บริติช เคานซิล ประเทศไทย โทร. 02-657-2211 และเว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit