ความอมตะ คำนี้ในสังคมไทยเราเข้าใจถึงสิ่งที่ได้รับความนิยมชมชอบ รูปแบบนิยมยาวนาน เช่น เพลงอมตะ หรือบางครั้งเราเรียกบุคคลบางคนว่าเป็นคนอมตะ หรือสิ่งของใดๆ ที่อยู่ในจิตใจไม่ร้างโรยรา เราก็เรียกสิ่งนั้นว่าอมตะ ความเป็นอมตะในลักษณะนี้เหมือนความนิยม ที่มีอยู่ในเรื่องนั้นๆ คนนั้นๆ ยืนยาวยั่งยืน
สุดยอดอมตะบุคคลที่ท่านพระครูได้ยกย่องเป็นตัวอย่างก็คือ "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" รวมทั้งของคำสอนของพระองค์ซึ่งเป็นมรดกที่ไม่ตายไปกับกาลเวลา เพราะว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นอกาลิโก ซึ่งหากผู้ใดได้ปฏิบัติแล้วจะได้เป็นผู้มีความเป็นอมตะอยู่ในตัว เพราะคนที่เป็นอมตะคือคนที่มีศีลธรรม จะทำให้เป็นที่จดจำอยู่ในใจของคนทั้งโลก ไปที่ไหนก็มีคนกล่าวถึง แม้จะจากโลกนี้ไปแล้วก็ยังเป็นที่ระลึกถึงอยู่เสมอ
คำสอนของพระพุทธเจ้าจะทำให้เราเป็นอมตะ และเข้าถึงพระนิพพานอันเป็นเป้าหมายปลายทางของพระพุทธศาสนา ยศย่อมเจริญแก่ผู้ขยัน มีสติ มีการงานสะอาด ทำงานด้วยความรอบคอบระมัดระวัง เป็นอยู่โดยชอบธรรม ไม่ประมาท
ปุถุชนต้องมีความขยันหมั่นเพียร มีคำกล่าวไว้ว่า "ขี้เกียจเป็นแมลงวัน ขยันป็นแมลงผึ้ง ขี้หึงเป็นแมลงป่อง จองหองเป็นกิ้งก่า" คนเราต้องขยันอย่างผึ้ง ที่ "ขยันหากิน บินไม่สูงนัก รู้จักสะสม และนิยมสามัคคี" ข้อต่อไปคือมีสติ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด เผชิญกับปัญหาอย่างใด สติจะทำให้เราปราศจากความกลัว และมีการงานที่ดี มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม และทั้งหมดจะต้องมีความไม่ประมาทเป็นทางกำกับ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ความไม่ประมาทเป็นทางไม่เสื่อม เป็นทางไม่ตาย และเป็นไปเพื่อจิตใจที่มีความว่าง เพื่อจิตใจที่มีกำลังจะออกจากสิ่งที่ไม่ดี และสามารถจะดับไฟในใจได้ เพื่อหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีที่เป็นนิสัยเคยชินได้ทั้งหมด คนที่มีความไม่ประมาทเป็นนิสัยจะสามารถแก้ปัญหาให้ชีวิตพ้นภัยได้ ซึ่งจะทำให้เข้าสู่ความเป็นอมตะแห่งชีวิตได้นั่นเอง
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดีๆ ในโครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ซึ่งปีนี้ดำเนินมาเป็นปีที่ 24 แล้ว ตามปณิธานองค์กรที่ต้องการร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน สามารถเข้าร่วมได้ที่ชั้น 11 อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ