ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ว่า "อินเว้นท์ เล็งเห็นว่าตลาดธุรกิจสุขภาพในประเทศไทยมีความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการส่งเสริมจากทางภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub โดยในปี 2561 มีคนไข้ชาวต่างชาติเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลในประเทศไทยกว่า 3.4 ล้านครั้ง ก่อให้เกิดรายได้กว่า 1.4 แสนล้านบาท อีกทั้งแนวโน้มของประชากรในไทยและต่างประเทศกำลังเข้าสู่ Aging Society ดังนั้นธุรกิจด้าน Health Tech ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการด้านสุขภาพ จึงมีศักยภาพที่จะเติบโตไปพร้อมกับตลาดสุขภาพในปัจจุบัน"
"เราเห็นถึงศักยภาพของ Doctor A to Z สตาร์ทอัพด้าน Health Tech ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มช่วยในการจัดการดูแลเรื่องสุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามารักษาในประเทศไทย ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและจัดการด้านสุขภาพด้วยตัวเองได้มากขึ้น เช่น สามารถนัดหมายออนไลน์ ปรึกษาแพทย์ผ่านทางวิดีโอในขณะอยู่ที่บ้านได้ โดย Doctor A to Z มีเครือข่ายแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายโรงพยาบาลชั้นนำ ให้บริการดูแลรักษาโรคได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์เฉพาะทางได้อย่างได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งช่วยผู้ป่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ที่สำคัญบริษัทมีทีมงานและผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์ด้านการแพทย์มายาวนาน จึงทำให้อินเว้นท์ตัดสินใจร่วมลงทุนใน Doctor A to Z โดยอินเว้นท์คาดหวังว่าเงินที่ลงทุนไปจะช่วยให้ Doctor A to Z สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้ป่วยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสังคมในวงกว้างได้"
นายแพทย์อนุชา พาน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ด็อกเตอร์เอทูแซด จำกัด กล่าวว่า "เราเป็นกลุ่มทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในวงการแพทย์มากกว่า 20 ปี และอยู่กับปัญหาข้อจำกัดของคนไข้ในการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ควบคุมได้ยากและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ในขณะที่คนไข้เองก็ต้องการความรู้ในการตัดสินใจที่เชื่อถือได้และช่องทางการบริการทางการแพทย์ที่สะดวก ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา แบบถูกโรค ถูกหมอ ถูกคน และถูกใจ (End to End Healthcare Service)"
"3 ปี ที่ทีมเรามุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาแอปพลิเคชัน "Doctor A to Z" Platform เพื่อเป็นช่องทางสื่อกลางที่เข้าถึงได้สะดวกและเชื่อถือได้ให้กับคนไข้ โดยรวบรวมและสร้างเครือข่ายของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากโรงพยาบาลชั้นนำและจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์กว่า 600 ท่าน ซึ่งภายในปี 2563 เราตั้งเป้าเชิญชวนแพทย์และโรงพยาบาลเข้าร่วมบริการบนแพลตฟอร์มให้ได้ทั่วประเทศเพื่อรองรับการขยายการเข้าถึงทั้งในประเทศและต่างประเทศ การใช้เทคโนโลยีมาช่วยพลิกโฉมวงการแพทย์ไทยครั้งนี้จะทำให้ทุกคนสามารถบริหารจัดการสุขภาพของตัวเองได้บนแอปพลิเคชันเดียวจบทุกการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยเป้าหมายใหญ่สุด คือ เป็นระบบจัดการด้านการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม(Future Healthcare Management) ด้วยเครือข่ายแพทย์เฉพาะทางและเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด
การได้รับเงินลงทุนจาก InVent ครั้งนี้จะทำให้ Doctor A to Z สามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและสามารถปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ ของการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ปรึกษาหมอ รอคิวการรักษา และการส่งต่อคนไข้เข้ารับการรักษาเป็นเรื่องที่สามารถทำใด้ง่ายขึ้นและต้องปลอดภัยตามมาตรฐานสากลทางการแพทย์ เพราะทุกคนจะมีโอกาสเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด''
Doctor A to Z ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการด้านการแพทย์อย่างครบครัน ซึ่งประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์คือ
ด็อกเตอร์เอทูแซด ( Doctor A to Z ) เปิดให้บริการลูกค้าต่างชาติ Medical Tourism การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มา กว่า 2 ปี และ 50% เป็นคนไข้จาก พม่า และ บาห์เรน ส่วนอีก 50% เป็นกลุ่มลูกค้าบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย โดยมีแผนการขยายธุรกิจในระยะสั้น มุ่งไปที่ตลาดต่างประเทศซึ่งโฟกัสในกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม (CLMV) โดยเฉพาะขณะนี้ Doctor A to Z ได้มีการจับมือกับพันธมิตรในประเทศพม่า เพื่อเตรียมเปิดตัวความร่วมมือในการพัฒนา Doctor A to Z Myanmar ภายในปี 2563 เพื่อให้บริการสุขภาพบนแอปพลิเคชันเดียวจบครบวงจรทั้งในประเทศพม่าและส่งต่อมารักษาในไทยส่วนแผนระยะยาว คือการนำเทคโนโลยีมาผสานให้เกิดความแข็งแกร่งและทำให้ระบบบริหารจัดการสุขภาพ (Healthcare Management Ecosystem) สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นๆ (API or Integration) เช่น กลุ่มบริษัทประกันชีวิต โรงพยาบาลที่เข้าร่วมเครือข่าย คลินิกสุขภาพ ศูนย์บริการตรวจเลือดและบริษัทยา เครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อนำไปสู่การเป็น Future Healthcare Management ที่เหนือกว่าสำหรับทุกคนได้อย่างยั่งยืน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit