เป็นคนไทยที่คว้ามงกุฎได้คนแรกด้วย ไม่ได้เจอพ่อ แม่ กี่เดือนแล้ว?
บิ้นท์ : ร่วมๆ 2 เดือน คือตอนเห็นป๊า ป๊าน้ำตาไหลออกมาก่อนเลย หนูเห็นพ่อ แม่ ร้องไห้ไม่ได้ หนูก็น้ำตาไหล แต่เป็นน้ำตาที่ดีใจได้เจอสักที
ชีวิตเป็นยังไงบ้าง?
บิ้นท์ : คือตอนแรกที่ได้ตำแหน่งที่ญี่ปุ่น ยังไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนไปมาก เราเห็นคอมเมนต์เราก็ดีใจ แต่พอกลับมา คนมารับตั้งแต่บนเครื่อง ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนจำเราได้ ก็ดีใจ หายเหนื่อย
โมเมนต์ตอนที่ประกาศผลมีอยู่ 4 ประเทศ ตอนนั้นคิดว่าเราจะได้ไหม?
บิ้นท์ : ตอนนั้นบิ้นท์เป็นคนที่หวังไกลๆ แต่ว่าจะไม่ชอบคาดหวังมากเกินไป เพราะมันจะทำให้เราเครียด ไม่เป็นตัวเรา เราก็ปล่อยเลย เราคิดว่าเราอาจจะไม่ได้ก็ได้ เราเตรียมยินดีกับเพื่อน ตอนนั้นคิดว่าอินโดนีเซียเขาเป็นตัวเกร็งตั้งแต่แรก
วันนั้นบนเวทีทุกคนเข้ามารุมดีใจกับบิ้นท์เขาเรียกว่าเป็นปรากฎการณ์เลย อันนี้รู้สึกยังไงบ้าง?
บิ้นท์ : อันนี้ดีใจที่สุดแล้ว คือหวังมงฯ ไหม ทุกคนหวัง แต่ว่าสำหรับบิ้นท์ บิ้นท์หวังแค่ว่าเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ไปถึงมงฯ แต่เป้าหมายตลอดการแข่งขันคือบิ้นท์อยากได้มิตรภาพ บิ้นท์รู้สึกว่ามันสวยงามกว่าที่เราแบบไม่เห็นจำเป็นที่มาเพื่อชนะอย่างเดียว เราได้อย่างอื่นอีกตั้งเยอะ วัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้กิน ได้เพื่อน ก้เลยรู้สึกว่ามันคุ้มค่าหว่า แล้วสุดท้ายมันก็ทำได้ เราไม่ต้องอยากชนะขนาดนั้นก็ได้ เราหาอะไรระหว่างทางไปด้วยได้
หรือที่เขารักคุณมาก เพราะคุณชอบติดสินบนเขาด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและยาดม จริงหรือไหม?
บิ้นท์ : จริงค่ะ เป็นไปได้ เหมือนว่าตอนเก็บตัว วีคแรก เราเตรียมยาดมไป 2 แผง ตุ๊กตาช้าง ช่วงแรกๆ ก็แจกเพื่อนสนิทก่อน เขาดูประทับใจมาก แล้วบิ้นท์พกบะหมี่กึ้งสำเร็จรูปไปประมาณ 10 ถ้วย แล้วเขาชอบกันมาก
ไฮไลการแข่งในวันนั้นบิ้นท์บอกว่าหนูโดนวิจารณ์ตั้งแต่ได้ตำแหน่งนางสาวไทยตอนนั้นโดนอะไรบ้าง?
บิ้นท์ : ตอนได้มงกุฎวันแรกมาทุกอย่างเลย ไม่สวย ไม่สมมงฯ คือบางทีก็ด่าแรง เราก็ร้องไห้ ทำไมแรงจัง เราก็โลกสวย ได้ตำแหน่งคนก็ต้องดีใจกับเราแน่เลย แต่พอไปอ่านปุ๊บมันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยก็เสียใจอยู่หนึ่งวัน เสร็จปุ๊บก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เกิดจากที่เราทำไม่ดี ดังนั้นไม่ต้องเครียด ปล่อยไป คอมเมนต์ที่อาจจะขัดใจเราบ้าง แต่มันอาจจะพัฒนาเราได้ก็เก็บมาคิด เก็บมาพัฒนากับทีม แล้วสุดท้ายมันก็ดีขึ้นมา ทุกคนยอมรับ บิ้นท์มองว่าคนที่คอมเมนต์ไม่ดี เขาอาจจะอยากได้ตัวแทนประเทศที่ดีที่สุด เราก็แค่พัฒนาตัวเองให้ดีที่สุดไม่มีอะไร
เวลาเรามองตัวเองในกระจก เราว่าเราสวยไหม?
บิ้นท์ : บิ้นท์เป็นคนพอใจในตัวเอง แต่ไม่ได้หลงตัวเองนะ เป็นคนภูมิใจในตัวเอง พร้อมจะปรับปรุง
มีดราม่าเกิดขึ้นว่าเวทีที่ได้ตำแหน่งล่าสุดมีการล็อกมงฯไหม?
บิ้นท์ : สำหรับหนูเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างแฟร์มาก เพราะว่าถ้ามองเรื่องการท่องเที่ยว เปิดตลาดมีหลายประเทศที่ญี่ปุ่นเขาอยากเปิดตลาดด้วย บิ้นท์ก็มีทำการบ้านก่อนไป เขาจะเลือกประเทศไหนในนั้นก็ได้ หลายประเทศเป็นตัวเกร็งด้วย ซึ่งบิ้นท์อาจจะถูกใจกรรมการในบางจุดอะไรประมาณนี้
ไม่มีการล็อกมงฯแน่นอน บอกเลยว่าบิ้นท์ได้มาสมตำแหน่งมากๆ ใครที่ได้ดูคำตอบของบิ้นท์ คิดสดๆ ตรงนั้นเลย?
บิ้นท์ : จริงๆ ต้องบอกว่าไม่สดค่ะ เขาจะบอกก่อนประมาณ 3-4 วัน ให้คิด ธีมคือเราอยากให้เชียร์ผู้หญิง เราก็คิดว่าอะไรที่เราอยากสื่อสารจริงๆ ไม่ได้คิดว่าคำพูดต้องสวย แต่คิดว่าอะไรที่จะทำให้เขามีพลังไปต่อ แต่ก็มีทีมไทยช่วยเกลาด้วย เราอาจจะเรียงตรงนี้อย่างนี้ให้มันเป็นภาษาที่สวยขึ้น
ย้อนกลับไปตอนประกวดนางสาวไทย ตอนได้ตำแหน่งใหม่ๆ มีเหตุการณ์ที่ทำให้บิ้นท์ร้องไห้กลางกองถ่าย เกิดอะไรขึ้น?
บิ้นท์ : มันจะมีวันที่ต้องถ่ายภาพก่อนเข้ากองมิสอินเตอร์เนชั่นแนล ด้วยความที่ว่าหลังจากได้ตำแหน่งนางสาวไทยอาทิตย์แรก บิ้นท์ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ทั้งหมด ดังนั้นเหลือเวลาแค่ 2 อาทิตย์ในการเตรียมมามิสอินเตอร์เนชั่นแนล แล้ววันนั้นเป็นวันที่ถ่ายยาวนานจนถึง 3 ทุ่ม มันเหมือนสะสม ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้หยุดเลย ออกกำลังกาย ซ้อมเดิน ซ้อมพูด มีอีเว้นท์ทุกวัน บิ้นท์ลางานยาวเลย วันนั้นมันก็เป็นโมเมนต์ที่มันอ่อนแอก็ร้องไห้สักหน่อย แล้วผู้จัดการเดินเข้ามาถามว่าเป็นอะไร แกเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ถ่ายต่อ
เอาจริงๆ วันนั้นที่น้ำตาไหลออกมา มันร้องไห้จากการเหนื่อยที่ต้องถ่าย หรือแรงกดดันมันเยอะ?
บิ้นท์ : บิ้นท์ว่าเหนื่อยจากการถ่าย เหนื่อยจากการที่เราเรียนนั่น เรียนนี่ ถ่าย มีอีเว้นท์ มีกิจกรรมทุกวัน เหมือนร่างการเราไม่ได้พักเลยแล้วมันล่า แล้วพอร้องไห้เหมือนรู้สึกได้ระบาย
ปกติทางกองไม่ให้เอาออกมาจากญี่ปุ่น ทำไมเอามา?
บิ้นท์ : อันนี้ต้องขอบคุณทีมงานฝั่งประเทศไทยมาก เพราะถ้าไม่มีคนจาก ไอซีเอ คือองค์กรของมิสอินเตอร์เนชั่นแนลถ้าไม่มาด้วย เขาจะไม่ให้เอาออกเลย แต่ครั้งนี้ทางทีมไทยบอกว่าขอพาตัวคนที่ดูแลมงกุฎมาด้วยเลย วันนี้เขาก็มาติดตามมาดูแลมงกุฎอย่างดี
ก็มีคนเม้าท์เรื่องความสวยงามของบิ้นท์ว่าหลังจากได้ตำแหน่งทำไมหน้าไม่เหมือนเดิม ไปโดนมีดหมอมาหรือเปล่า?
บิ้นท์ : มีดไม่มีค่ะ แต่ว่ามีเข็มบ้าง อาจจะมีโบท็อกซ์นิดหน่อย เพราะว่าตอนแรกหน้ากลม มีไฮฟู อะไรอย่างนี้
เขาบอกว่าตอนได้ตำแหน่งนางสำไทยใหม่ๆ หน้าไม่เหมือนกันหรอ?
บิ้นท์ : ตัวหนูรู้สึกว่าสิ่งที่เปลี่ยนคือหน้าเล้กลงมากๆ คุณหมอที่ทำให้เต็มที่มาก ไถ่แล้วไถ่อีก
สวยขนาดนี้อนาคตจะออกจากวงการเภสัชไหม?
บิ้นท์ : บิ้นท์ว่าอาชีพเภสัชอยู่ในสายเลือด เพราะว่าเราเรียนมา เราได้วุฒิ เราจบมา แต่ตอนนี้บิ้นมองว่าโอกาสที่บิ้นท์ก็อยากจะทำงานด้านนี้เหมือนกันในชีวิตบิ้นท์เข้ามาแล้ว แล้วเป็นโอกาสที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ ก็อยากจะเลือกทำอันนี้ก่อน แต่ว่าอาชีพเภสัชมันจะยังอยู่กับบิ้นท์ บิ้นท์แพลนไว้แล้วว่าในอนาคตยังไงบั้นปลายชีวิตบิ้นท์ต้องกลับมาอาชีพเภสัชกรอยู่แล้ว เพราะว่าใจบิ้นท์ยังอยากช่วยเหลือคน อยากเปิดร้านขายยาที่เคยฝันไว้ตั้งแต่ตอนเข้ามาเภสัชอะไรอย่างนี้ แต่ว่าตอนนี้ขอโฟกัสกับโอกาสที่เข้ามา เราก็อยากทำด้านนี้ก็ทำให้เต็มที่ก่อน
หลังจากหมดปีบิ้นท์จะทำอะไรในวงการ?
บิ้นท์ : บิ้นท์อยากลองทุกอย่างเลย เพราะบิ้นท์มองว่ามันใหม่ ตอนเด็กๆ ความฝันที่นอกจากเป็นเภสัชกร เป็นนางงาม ก็คือชอบดูหน้าทีวี เล่นละครตามพี่กิ๊ก สุวัจนี ชอบ อยากแสดง
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ บิ๊นท์ สิรีธร https://www.youtube.com/watch?v=KlSkl75f08g
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit