กรมส่งเสริมสหกรณ์ “นักวิชาการชู ยุทธศาสตร์ข้อมูล ปรับโฉมสหกรณ์ไทย”

30 Sep 2019
นักวิชาการชู ยุทธศาสตร์ข้อมูล ปรับโฉมสหกรณ์ไทย ใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาและรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เสนอกสส. ผนวกความรู้ 0.4 กับ 4.0 เพื่อนำสหกรณ์พัฒนาองค์กรสู่ยุคดิจิทัล มุ่งใช้เทคโนโลยี ค้าออนไลน์ ไม่ง่ายแต่ต้องเริ่ม
กรมส่งเสริมสหกรณ์ “นักวิชาการชู ยุทธศาสตร์ข้อมูล ปรับโฉมสหกรณ์ไทย”

ดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเวทีสัมมนาวิทยาการของกรมส่งเสริมสหกรณ์ "การพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สู่ความยั่งยืน" ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นองค์กรที่มีความสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นองค์กรที่ดูแลความเป็นอยู่ให้กับประชาชน สหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ลองผิดลองถูก ทดลองผลิตสินค้าและตลาดใหม่ ๆ ในทางที่ดี และเห็นว่าสหกรณ์ต้องเอาเทคโนโลยี 4.0 และข้อมูลวิถีชีวิตของชุมชนแบบยุค 0.4 มาผนวกกัน เพราะข้อมูลคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการนำมาวางแผน และควรให้ความสำคัญในการทำยุทธศาสตร์ข้อมูล เพราะความท้าทายของเกษตรกรและสหกรณ์ ไม่ใช่เฉพาะ ภัยธรรมชาติแค่ปัญหาน้ำ ดิน ภัยแล้ง การขาดความรู้ในการทำบัญชี การโดนกดราคา การขาดตลาดใหม่ การไม่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง แต่เป็นโลกดิจิทัลที่สหกรณ์ต้องเตรียมความรู้และเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และกรมส่งเสริมสหกรณ์ต้องพัฒนาตัวชี้วัดความสำเร็จของสหกรณ์ ไม่ใช่วัดเพียงปริมาณ แต่ให้วัดเชิงคุณภาพ และให้สอดรับกับการปรับเปลี่ยนของยุคสมัยด้วย

ทั้งนี้ เหตุที่ต้องปรับปรุงเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสหกรณ์คือองค์กรที้เข้าถึงประชาชนและเป็นหน่วยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชนตัวจริง ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สหกรณ์ต้องเปลี่ยนความคิด และหันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและการสร้างเครือข่ายเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้มากขึ้น ที่ผ่านมาการแยกและแบ่งประเภทของสหกรณ์ถูกต้อง แต่ต้องเชื่อมให้สหกรณ์ที่แย่สุดกับสหกรณ์ที่ดีสุด เพื่อสร้างโอกาสและความร่วมมือที่จะพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน

" สิ่งที่ภาคสหกรณ์ต้องเผชิญคือโลกยุคดิจิทัล ไทยได้ประกาศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 4.0 แต่บางส่วนก็ยังเป็นยุค 0.4 ดังนั้นสิ่งที่เราต้องปรับก็คือ ต้องเอา 0.4 มาใช้ คือการเอาประวัติศาสตร์ เรื่องราวท้องถิ่น และของดีของท้องถิ่นมาประกอบ ซึ่งในโลกปัจจุบัน การนำเสนอเรื่องราวและเอกลักษณ์ของชุมชนยังขายได้และสากลให้ความสำคัญ เช่น ที่ฮ่องกงขายกาแฟแก้วละ 300 บาทได้เพราะเขาโฆษณาว่าใช้นมจากนิวซีแลนด์ หรือน้ำสะอาดมาจากไหน ซึ่งมีคนพร้อมซื้อ สหกรณ์ของไทยก็เช่นกัน ต้องหยิบของดีของท้องถิ่นมาช่วยในเรื่องของผลผลิต และการแปรรูปด้วย และอีกประเด็นที่สำคัญคือเรื่องการทำอีคอมเมิรส์ ไม่ง่าย ขายของออนไลน์ ไม่ง่าย แต่ต้องพัฒนาสหกรณ์ให้ไปถึงจุดนี้ เช่นที่ผมได้ลงไปดูมังคุดที่ชุมพร กับนครศรีธรรมราช มังคุดดีมาก ถามว่าเกษตรกร สหกรณ์ขายออนไลน์หรือไม่ เขาบอกไม่เคย ซึ่งในเรื่องนี้ ทั้งไทยเทรดดอทคอม ไทยแลนด์เทรดมาร์ค ก็พร้อมจะช่วย TCDC ของไทยก็มี เพราะการแข่งขันทางการตลาดสำคัญมาก ในยุคนี้ " ดร.ปริญญ์ กล่าว

HTML::image( HTML::image(