"เราพัฒนา Beosound Stage ให้เป็นซาวด์บาร์ที่ทรงพลังโดยไม่ต้องใช้ซับวูเฟอร์หรือดาวเทียมในการมอบประสบการณ์ขั้นสุดยอด เพียงคุณได้ฟังเสียงจาก Beosound Stage ครั้งแรกก็จะสัมผัสได้ถึงเสียงที่ทุ้มลึกและเต็มไปด้วยพลัง ให้ความรู้สึกแตกต่างในทันที และด้วยการออกแบบในแนวสแกนดิเนเวียนที่เน้นความเรียบง่ายสไตล์ Minimal ยังทำให้ Beosound Stage กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหรูที่ช่วยเสริมความสวยงามในบ้านของคุณ ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย สะอาดตา ประณีตหรูหรา แต่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง" คริสโตเฟอร์ สเตอร์การ์ด พูลเซน รองประธานฝ่ายการบริหารผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen กล่าว
ซาวด์บาร์ที่ออกแบบมาเพื่อบ้านของคุณ
Beosound Stage ได้รับการออกแบบโดยความร่วมมือกับ NORM Architects สตูดิโอด้านเสียงในเดนมาร์ก โดยเป็นส่วนหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของ Bang & Olufsen เพื่อทำให้เทคโนโลยีส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของผู้คน ผลลัพธ์ที่ได้จากการผสมผสานรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายเข้ากับการใช้วัสดุจากธรรมชาติ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์อันเปี่ยมคุณค่าที่ช่วยเสริมความหรูหราสวยงามให้แก่บ้านของคุณได้อย่างลงตัว
ความโดดเด่นในการออกแบบ Beosound Stage คือโครงกรอบที่เรียบง่ายและหรูหราซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมสีธรรมชาติ อลูมิเนียมทำด้วยสีทองแดงหรือสีไม้โอ๊กรมควัน โดยใช้กรอบล้อมลำโพงทุกด้านและติดตั้งแผงควบคุมแบบสัมผัสอย่างประณีต ร่องขนาด 2 มม. ระหว่างกรอบและผ้าหุ้มลำโพงช่วยลวงตาเสมือนว่าลำโพงกำลังลอยอยู่ภายใน และสร้างความต่างที่น่าสนใจระหว่างกรอบที่ดูแข็งแรงด้านนอกกับผ้าหุ้มที่มอบเสียงนุ่มละมุนด้านใน
Bang & Olufsen ยังตอกย้ำความเป็นเลิศด้านงานฝีมือของเครื่องเสียงระดับโลก ผ่านการนำอลูมิเนียมขึ้นรูปแบบชิ้นเดียวมาสร้างสรรค์เป็นโครงสีทองแดงธรรมชาติได้อย่างสวยงามไร้รอยต่อ สำหรับเวอร์ชั่นสีโอ๊กรมควัน ใช้กรรมวิธีการเข้าลิ้นแบบโบราณ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่มักพบเห็นในงานต่อตู้ไม้ขั้นสูงแบบสแกนดิเนเวียน
ไดรเวอร์ลำโพงทั้ง 11 ตัวที่ออกแบบเป็นพิเศษ
Beosound Stage มาพร้อมไดรเวอร์ 11 ตัวที่ใช้แอมพลิไฟเออร์ 50 วัตต์ ทำให้ได้ลำโพงแบบ 3 ช่องเสียงที่กระหึ่มด้วยเครื่องปรับแต่งสัญญาณเสียงระบบดิจิทัล (DSP) ที่มอบอรรถรสและความพึงพอใจสูงสุดแม้แต่นักฟังที่มีประสาทหูอันละเมียดละไม
ทีมวิศวกรเสียงอันโด่งดังของ Bang & Olufsen ใช้ตัววูเฟอร์ขนาดใหญที่ผลิตมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ครอบคลุมถึงย่านความถี่ที่ต่ำกว่า จึงมอบพลังเสียงที่ทุ้มลึกและทรงพลังอย่างเหนือชั้น ไดรเวอร์ที่ถูกวางตรงช่องเสียงกลาง ใช้วูเฟอร์ขนาด 4 นิ้ว 4 ตัวซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียงและเพิ่มการขับเคลื่อนให้มากที่สุด ทำให้มอบประสิทธิภาพเสียงเบสได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงความถี่ระดับกลางของช่องเสียงกลางรองรับด้วยไดรเวอร์ขนาดกลาง 1 ½ นิ้ว 2 ตัว ร่วมกับโดมลำโพงเสียงแหลมขนาด ¾ นิ้วอีกหนึ่งตัว
ด้านซ้ายและขวาของลำโพงได้รับการปรับแต่งเพื่อมอบพลังเสียงแบบสามมิติขั้นสุด โดยแต่ละข้างติดตั้งด้วยลำโพงเสียงแหลมขนาดกลาง 1 ½ นิ้ว 1 ตัว และขนาด ¾ นิ้วอีก 1 ตัว โดยติดตั้งให้ทำมุมกัน 45 องศากับแกนเครื่อง เพื่อสร้าง เอ็ฟเฟ็กต์เสียงแบบสามมิติที่สมจริงยิ่งกว่า
ระบบเสียง 3 มิติ Dolby Atmos
Beosound Stage มอบระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบหลายช่องสัญญาณที่พัฒนาใหม่ล่าสุด ช่วยยกระดับเวทีเสียง (soundstage) เพื่อสร้างเอ็ฟเฟ็กต์เสียงแบบสามมิติที่ดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยกระจายเสียงเดี่ยวไปรอบทอศทาง เช่น ทำให้เสียงเฮลิคอปเตอร์กระหึ่มราวกับกำลังบินอยู่เหนือศีรษะ หรือเสียงสิ่งของที่ตกลงบนพื้นด้านหลังผู้ฟังได้
ปรับเสียงตามอารมณ์ด้วย ToneTouch
Beosound Stage มีโหมดการรับฟังที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ ซึ่งได้รับการปรับจูนให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่รับฟัง โดยคุณสามารถเลือกจากโหมดการรับฟังต่าง ๆ ได้แก่ TV, Music, Movie, Night Listening หรือ None หลังจากเลือกแล้ว คุณยังสามารถปรับตั้งค่าเสียงแบบละเอียดได้ตามความชอบด้วย ToneTouch ซึ่งเป็นเครื่องปรับคุณภาพเสียงที่ใช้งานง่ายและสนุกสนาน เอกสิทธิ์ของ Bang & Olufsen ที่มีรูปแบบการปรับค่ามากมาย เพื่อให้คุณได้คุณภาพเสียงที่สอดรับกับรสนิยมและสถานการณ์ในการรับฟังของคุณมากที่สุด
การสตรีมมิ่งเสียงและดนตรีพร้อมกันหลายห้อง
ไม่ว่าจะต่อกับโทรทัศน์หรือระบบเครื่องเสียงก็ตาม Beosound Stage สามารถใช้งานได้กับเทคโนโลยีการสตรีมมิ่งเสียงชั้นนำของโลกทุกระบบ ทั้ง Chromecast, Apple AirPlay 2 และ Bluetooth โดยยังสามารถใช้งานได้แม้ในขณะปิดการใช้งานเครื่องโทรทัศน์ ทำให้สามารถสตรีมมิ่งเสียงได้จากหลายห้องพร้อมกัน
ราคาและการจำหน่าย
Beosound Stage พร้อมเปิดสั่งจองล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และสินค้าจะมีจำหน่ายหน้าร้านตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 โดยรุ่น Beosound Stage Aluminium, Beosound Stage Bronze Tone (ชิ้นละ 65,000 บาท) จะมีเปิดจอง และจำหน่ายผ่านศูนย์จำหน่ายของ Bang & Olufsen สาขา Gaysorn Village, Crystal Veranda และสาขา The EmQuartier รวมถึงร้านจำหน่ายเครื่องเสียงชั้นนำอย่าง King Power, iStudio by copperwired, SPVi, Dotlife, Munkong Gadget, Digital Lab Siam Discovery, Bb Beyond d Box, Power Mall, Power Buy และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, 425 Degree, Lazada, Shopee, JD.co.th and Gadgetthai.net. สำหรับรุ่น Beosound Stage Smoked Oak (ราคา 105,000 บาท) เป็นรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายเฉพาะศูนย์จำหน่ายของ Bang & Olufsen สาขา Gaysorn Village, Crystal Veranda และ The EmQuartier เท่านั้น
ติดตามข่าวสารและพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ @bangolufsen ทั้งบน on Instagram, Facebook, Twitter และ YouTube โดยติดแฮชแท็ก #BeosoundStage
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit