นาย
เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในสังกัดเร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 3 เรื่องให้เร็วขึ้น เพื่อรองรับการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด
พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ได้แก่ 1) เร่งส่งเสริมการใช้สารชีวภาพชีวภัณฑ์ทดแทน 3 สาร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้กระทรวงรวบรวมมาให้ได้มากที่สุดโดยให้ศูนย์วิจัยข้าวพืชไร่พืชสวนใช้ทดสอบในแปลงทดลองทุกภาค
ทั่วประเทศ 2) เสนอร่างพรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน ฉบับที่ พ.ศ....ต่อสภาผู้แทนฯ โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ร่าง
กฎหมายดังกล่าวที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนออยู่ในชั้นกฤษฎีกาแล้ว จากนั้นจะเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อส่งเข้าสภาผู้แทนฯ ต่อไป ปัจจุบันมีพื้นที่เกษตรยั่งยืนกว่า 3 ล้านไร่ และจะให้ขยายเป็น 5 ล้านไร่ในเฟสที่หนึ่งโดยเร็ว และ 3) ยกระดับการส่งเสริม
เกษตรอินทรีย์ ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ สามารถขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ได้ถึง 570,000 ไร่ ที่ผ่านการรับรองออการ์นิค มีอัตราเติบโตร้อยละ 16 ต่อปี เป็นอันดับ 7 ของเอเซีย โดยให้วางเป้าหมายว่าต้องเติบโตขยายตัวร้อยละ 25 ต่อปี เพื่อบรรลุเป้าหมายแรก 1 ล้านไร่ โดยกำลังพิจารณาจัดตั้งสถาบันเกษตรอินทรีย์แห่งชาติเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน
"ผมห่วงใยต่อสุขภาพของเกษตรกรไทยที่ใช้สารเคมีอันตรายรวมถึงคนไทยทั้งประเทศที่บริโภคพืชผักผลไม้ที่มีสารอันตรายตกค้าง จึงมีนโยบายแบนห้ามใช้สารพิษ 3 ชนิดนี้ และมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์) รับผิดชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และจะไม่ยอมให้คนไทยตายผ่อนส่งอีกต่อไป จึงมีแผนเร่งด่วนรองรับนโยบายการแบน 3 สาร ซึ่งเป็นแผนการพัฒนาเกษตรกรรมแบบยั่งยืน จุดเปลี่ยนครั้งนี้สำคัญต่ออนาคตภาคเกษตรและอาหารของประเทศ จึงต้องมีมาตรการและแผนรองรับตอบโจทย์ทั้งระยะเฉพาะหน้าและระยะยาวตามแนวทางของท่านนายกรัฐมนตรี" นายเฉลิมชัย กล่าว