โดยในปีนี้ ทางสถาบันได้ส่ง นางสาวชลลดา บุราชรินทร์ นักวิจัย ฝ่ายวิจัยเชิงพาณิชย์และการจัดการสารสนเทศ และนางสาวพัลลภา วุฒิภาพรกุล นักวิจัย ฝ่ายนาโนเทคโนโลยีและเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นตัวแทนหน่วยงานนำผลงานวิจัยจัดแสดงในโซนสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง ณ ฮอลล์ D3 ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจีน-อาเซียน งานนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างประเทศจีนกับอาเซียนจีนกับอาเซียนเผื่อเร่งผลักดันและพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค พร้อมส่งเสริมความร่วมมือของธุรกิจ SMEs และส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
ด้าน นางสาวชลลดา บุราชรินทร์ นักวิจัย ฝ่ายวิจัยเชิงพาณิชย์และการจัดการสารสนเทศ กล่าวว่า "ทางสถาบัน KAPI ได้คัดเลือกผลงานวิจัยที่เหมาะสมกับผู้บริโภคกลุ่มตลาดจีน-อาเซียน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง แบรนด์ KAPIOKU (คาพิโอกุ), ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ แบรนด์ Plai Siam (ไพลสยาม), ผลิตภัณฑ์แป้งข้าวหอมมะลิ แบรนด์ GENGIGRAIN (เก็งกิเกร็น) และ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมโปรตีนชนิดผง สำหรับผู้สูงอายุ รสงาดำ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดล้วนได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานชาวจีนและผู้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการจากประเทศต่างๆ เป็นอย่างมากสำหรับผลงานวิจัยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในปีนี้ได้แก่ คือ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ Plai Siam (ไพลสยาม) ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยกลุ่มชาวจีนล้วนชื่นชอบในแง่ของคุณสมบัติ กลิ่นหอมของไพล และดีไซน์ที่เด่นสะดุดตา โดยในครั้งนี้สถาบันฯ ได้นำผลิตภัณฑ์ไพลสยามมา 2 ผลิตภัณฑ์ได้แก่ น้ำมันเหลืองไพลและยาหม่องไพล นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมือจากสารสกัดอะโวคาโด และ ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก จากสารสกัดโปรตีนรังไหม ก็ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน"
ในงานเดียวกันนี้ ตัวแทนจากสถาบันฯ KAPI ยังได้รับเกียรติเข้าร่วมงานประชุมวิชาการ The 7th Forum on China-ASEAN Technology Transfer and Collaborative Innovation, CAEXPO 2019 โดยมีรศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้ขึ้นกล่าวถึงนโยบาย Thailand 4.0 แนวทางการวิจัย ทั้ง Frontier Research, Biomedical Research, YOTHI Medical Innovation District (YMID) และ Precision Medicine ตลอดจนการพัฒนากำลังคน และความร่วมมือของการถ่ายทอดเทคโนโลยี ระหว่างประเทศไทย-จีน