บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำซื้อหุ้น TACC โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท เนื่องจากได้ปรับประมาณการกำไรขึ้น 6- 14% ซึ่งประมาณการกำไรงวด 9 เดือนปี 62 คิดเป็นสัดส่วนถึง 83% ของประมาณการเดิม ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/62 คาดกำไรปกติทำระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากเป็นช่วง High season ของการบริโภคในประเทศ และมีรายได้ธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนมากที่สุดของปีเช่นกัน รวมถึงจะมีงาน Theme park ทำให้มีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพิ่มเติมในช่วงปลายปี
อีกทั้งปลอดภัยจากประเด็นภาษีน้ำตาล และภาษีสรรพสามิต ในรอบนี้ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปี62 ขึ้น 14% เป็น 160 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 74% จากงวดปีก่อน) และปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2563 ขึ้น 6% เป็น 204 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.6%จากงวดปีก่อน) ทำระดับสูงสุดใหม่ โดยสิ้นไตรมาส 2/62 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่ 386 ล้านบาท (0.64 บาท/หุ้น) ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกในหลายบริษัท เพื่อซื้อกิจการ ซึ่งต้องเป็นบริษัทที่มาช่วยหนุนกำไรได้ทันที และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ หากสำเร็จคาดจะช่วยยกระดับฐานกำไรของ TACC ต่างไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็น Upside ต่อประมาณการ
นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจำหน่ายลิขสิทธิ์การ์ตูนให้ลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศ เป็นอีก Upside เช่นกัน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นอีกครั้ง ราคายังไม่สะท้อน Dividend yield 6% ซึ่งผลของการปรับประมาณการกำไรปี 62 – 63 ขึ้นส่งผลให้ราคาเป้าหมายถูกปรับขึ้น โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายเป็นสิ้นไตรมาส 2/63 อิง PER ที่ 25 เท่า ได้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท มี Upside gain 62.3% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 2562 – 2563 ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ที่เพียง 17.6 และ 13.8 เท่า ตามลำดับ อีกทั้งคาดเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.12 บาท (Yield 2.6%) และปี 2563 อีก 0.27 บาท/หุ้น (Yield 5.8%) คงคำแนะนำ ซื้อ บล.โกลเบล็ก แนะนำซื้อหุ้น TACC ปรับราคาเหมาะสมปี 62 เป็น 6.45 บาท เนื่องจากปรับคาดการณ์กำไรปี 62 เพิ่มขึ้น 32.4% หรือเติบโต 129%จากปีก่อน หลังจาก ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกเท่ากับ 76 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 106% จากปีก่อน) คิดเป็น 64% ของประมาณการกำไรทั้งปี 62 ที่ 119 ล้านบาทและเพื่อเป็นการสะท้อนผลประกอบการที่กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 1,570 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.2%) เพิ่มขึ้น 22%จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 157 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 32%) เพิ่มขึ้น 129% จากงวดปีก่อน
โดยมีปัจจัยเติบโต 3 ข้อหลักเติบโตตามการขยายสาขาของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้กระแสตอบรับดี และธุรกิจ Character Business เริ่มขยายตัวแข็งแกร่ง ล่าสุดเพิ่งได้รับสิทธิ์ลายการ์ตูนของคนไทย 'หมาจ๋า' ซึ่งจะทำให้ได้ลูกค้ารายใหม่อีก 1-2 ราย
นอกจากนี้ คาดผลประกอบการยังมีปัจจัยหนุนจากการขยายธุรกิจออกนอกร้าน 7-Eleven ในการจัดส่งผงเครื่องดื่มพร้อมชงให้กับร้านเครื่องดื่มชั้นนำ อาทิ กาแฟมวลชน, Jungle Cafe, ARABITIA และ CP Fresh Mart รวมทั้งหมดราว 500 สาขา พร้อมกับเล็งหาโอกาสขยายเข้าสู่ร้านอื่นๆ นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบในไตรมาส 4/62 จะทำสูงสุดของปีที่ราว 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 367%จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ และการจัด Event ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับราคาเหมาะสมปี 62 เพิ่มขึ้นสู่ 6.45 บาท (จากเดิม 4.90 บาท) โดยประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Average PER ย้อนหลัง 2 ปี ที่ 25 เท่า และปรับเพิ่มประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 สู่ระดับ 0.26 บาท/หุ้น จากเดิมอยู่ที่ระดับ 0.20 บาท/หุ้น
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit