นางสาวอัญชนา วัลลิภากร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "บาเนียได้รับการร่วมทุนในรอบ 1st Round Series-B จากบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด บริษัท ทีเอชเอส โกร๊ท จำกัด และนักลงทุน (Angel Investor) ซึ่งมองเห็นการเติบโต และการพัฒนาทั้งในเรื่องการจัดทำ Big Data และเทคโนโลยีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาให้เติบโตและต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการพัฒนา Baania.com 2.0 ให้เป็น Marketplace Platform ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น การพัฒนาฐานข้อมูลให้ครบทั่วทั้งประเทศ 77 จังหวัด และเทคโนโลยีใหม่ อาทิ ระบบจัดเก็บข้อมูลแปลงที่ดินอัจฉริยะ (Land Bank System) ที่สามารถช่วยในการวิเคราะห์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ระบบประมาณราคาอัจฉริยะ (Intelligence Valuation System) ที่สามารถเข้ามาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพให้กับสถาบันการเงิน บริษัทประเมินทรัพย์สิน และระบบการจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Management Platform) ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งปัจจุบันบาเนียไม่ได้ปิดโอกาสและมีการพูดคุยกับพันธมิตรหรือผู้ร่วมลงทุนที่สนใจอย่างต่อเนื่องเพื่อการขยายศักยภาพและการเติบโตในอนาคต"
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี เปิดเผยว่า "กรุงศรี ฟินโนเวต เป็น lead การลงทุนในบาเนียเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในรอบ Series-A เมื่อปี 2561 ซึ่งจากการลงทุนในครั้งนั้นบาเนียเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่เพียงในเรื่องของการมีฐานข้อมูลเชิงลึกครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆ รวม 26 จังหวัดทั่วประเทศ ยังรวมถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจที่ร่วมทำโปรเจคต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย นั่นเป็นเพราะความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และความแข็งแกร่งในเรื่องของเทคโนโลยี ทำให้บาเนียสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี"
"ขณะเดียวกันกรุงศรีและบาเนียกำลังขยายความร่วมมือกันในหลายโปรเจค โดยหลักๆ จะเป็นเรื่องของการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกในเรื่อง People Insight และ Property Insight และด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี AI ทำให้ธนาคารกำลังต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมการประมาณการณ์มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสินเชื่อบ้านของกรุงศรีให้มีความคล่องตัวและสะดวกยิ่งขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในการให้บริการลูกค้าของธนาคารเป็นอย่างยิ่ง" นายแซม กล่าวเพิ่มเติม
ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด บริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมประกันภัยในกลุ่ม บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บ้านเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนๆ หนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญของสถาบันครอบครัว พวกเราทุกคนกว่าจะมีบ้านสักหลังในชีวิต ต้องใช้หยาดเหงื่อแรงกาย การรักษาไว้ซึ่งบ้านเป็นสิ่งที่วันนี้ได้รับความสำคัญไม่แพ้การได้มา ประกันภัยบ้านจึงเป็นตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นมาก ทีคิวแอลดี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีประกันภัย จึงต้องการตอบโจทย์ลูกค้าผ่าน ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ ผู้นำด้านที่ปรึกษาประกันภัยและการเงินชั้นนำของไทย ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกแบบประกันจากทุกบริษัทประกัน เพื่อเฟ้นหาแบบประกันที่ดีเหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน สำหรับบ้านแต่ละหลัง จนกระทั่งถึงการให้บริการที่ตรงใจในทุกขั้นตอนหลังการขาย"
"การจะให้บริการที่ตรงใจลูกค้าได้ในยุค Big Data นี้ ต้องใช้ข้อมูล Insight ทั้งภาพรวมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ซึ่งในฐานะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเรื่อง Big Data ในอุตสาหกรรมประกันภัย เราสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาเพื่อให้เราเข้าใจ Insight ในทุกมุมมอง และใช้เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการของเราให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าสูงสุด" ดร.ธรรม์ธีร์ กล่าวเพิ่มเติม
นายวรเทพ ศิริรัตน์อัสดร กรรมการบริหาร บริษัท ทีเอชเอส โกร๊ท จำกัด กล่าวว่า "ทีเอชเอส โกร๊ท ในเครือเตียวฮงสีลมกรุ๊ป อยู่ในวงการธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 45 ปี มีนโยบายหลักในการพัฒนานวัตกรรมให้กับธุรกิจของทางกลุ่มบริษัทฯ โดยหาโซลูชั่นและหุ้นส่วนธุรกิจที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ดังนั้นการได้ร่วมธุรกิจกับบาเนียซึ่งมีทีมงานที่แข็งแกร่งและเชี่ยวชาญทางด้าน AI และ Big Data กับธุรกิจอสังหาฯ ทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถเข้าถึงลูกค้าและนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น จากการศึกษาตัวผลิตภัณฑ์และทีมงานของบาเนีย ตลอดจนการมีบริษัทผู้ร่วมลงทุนอย่างกรุงศรี ฟินโนเวตที่คอยสนับสนุน จึงมั่นใจว่าบาเนียจะสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จในอนาคตอันใกล้"
"กลุ่มบริษัทฯเชื่อมั่นว่าระบบ AI กับฐานข้อมูลของบาเนียสามารถเพิ่มเครือข่ายในการขายของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้นำอยู่ อย่างเช่นระบบจอดรถอัตโนมัติที่ปัจจุบันเรามียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ทางบริษัทยังเชื่อว่าธุรกิจอื่นๆ ทั้งในส่วนของธุรกิจนำเข้าวัสดุก่อสร้างซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม รวมถึงธุรกิจผู้รับเหมางานระบบอาคาร (M&E) และธุรกิจบริหารอาคาร (FM & OM) จะสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลของบาเนียได้เป็นอย่างดี การร่วมลงทุนครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของทางกลุ่มบริษัทฯที่ได้เริ่มลงทุนกับบริษัททางด้านเทคโนโลยี ซึ่งกลุ่มบริษัทฯเล็งเห็นความสำคัญและพร้อมที่จะลงทุนกับบริษัททางด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจอสังหาฯ หรือด้านอื่นๆในอนาคต" นายวรเทพ กล่าวเพิ่มเติม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit