โดยตั้งแต่วันที่ 7 – 12 ตุลาคม 2562 รถ STC-3 ต้องผ่านการตรวจสอบสมรรถนะถึง 2 แบบโดยคณะกรรมการของการแข่งขัน Bridgestone World Solar Challenge 2019 คือ แบบที่ 1 Static Scrutineering การตรวจสอบระบบในตัวรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระหว่างที่รถจอดนิ่งเฉยทั้งหมด 15 ด่าน เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องกล ระบบเบรก พวงมาลัย วงเลี้ยว ไฟหน้า ไฟท้าย แบตเตอรี่ ฯลฯ ซึ่งรถ STC-3 มีจุดที่ต้องแก้ไขไม่ต่างจากรถของประเทศอื่นๆ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยเข้าแข่งขันมาแล้วถึง 2 ครั้งทำให้การแก้ไขสามารถผ่านไปได้ด้วยดี
แบบที่ 2 Dynamic Scrutineering การตรวจสอบการขับเคลื่อนของรถพลังงานแสงอาทิตย์บนถนนจะทดสอบการขับเคลื่อนของรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น สลาโลม ระยะเบรก การเร่ง เป็นต้น โดยทดสอบการวิ่งที่สนาม Hidden Valley Motor Sport Complex ซึ่งรถ STC-3 สามารถผ่านการทดสอบแบบที่ 2 และรับทะเบียนรถออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อยโดยได้ทะเบียน SUN 49 ตามหมายเลขรถเบอร์ 49 จากนี้รถ STC-3 สามารถวิ่งบนถนนที่ออสเตรเลียได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
รถ STC-3 พร้อมแล้วสำหรับการแข่งขัน Bridgestone World Solar Challenge 2019 โดยรถ STC-3 จะถูกปล่อยตัวจาก Parliament House เมืองดาร์วิน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศออสเตรเลีย) หรือในเวลา 05.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
Bridgestone World Solar Challenge 2019 นับเป็นการแข่งขันในเส้นทางที่สุดทรหดเส้นทางหนึ่งของโลก โดยรถที่เข้าแข่งขันจะต้องเดินทางด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวห้ามใช้พลังงานจากน้ำมันในระยะทาง 3,022 กิโลเมตรตั้งแต่เมืองดาร์วิน (Darwin) ทางเหนือสุดของออสเตรเลีย สู่เมืองอะดิเลด (Adelaide) ทางใต้สุดของประเทศ ด้วยเส้นทางที่โหดร้ายนี้ทำให้การแข่งขัน Bridgestone World Solar Challenge 2019 เป็นการรวมตัวกันของผู้กล้า นักผจญภัย และนักนวัตกรรมสายเลือดใหม่จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมาแข่งขันชิงความเป็นที่หนึ่งหรือสุดยอดทางด้านรถพลังงานแสงอาทิตย์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยการแข่งขันครั้งนี้ทีม STC-3 ของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามจะต้องสู้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วโลก อย่าง มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, มหาวิทยาลัยมิชิแกน, มหาวิทยาลัยโตไก ฯลฯ
ร่วมเชียร์และร่วมให้กำลังใจทีม STC-3 และติดตามความเคลื่อนไหวตลอดการแข่งขัน ได้ที่ Fan Page : Solarcar Thailand(ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ : http://wsc.siamtechno.ac.th/dynamic-scrutineering/)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit