วอลโว่ คาร์ ประกาศแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหม่ เพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม

24 Oct 2019
วันนี้ วอลโว่ คาร์ ประกาศแผนการดำเนินงานครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนฟุตพริ้นต์ตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์วอลโว่ให้ได้ 40% ในช่วงปี ค.ศ. 2018 – 2025 ซึ่งนับเป็นขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมครั้งแรกของวอลโว่ เพื่อเป็นบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Climate-Neutral Company) ภายในปี ค.ศ. 2040
วอลโว่ คาร์ ประกาศแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหม่ เพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม

แผนครั้งนี้ระบุถึงการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงร่วมกับปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกปี ค.ศ. 2015 ซึ่งนับเป็นความพยายามในการจำกัดภาวะโลกร้อนไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม (Pre-Industrial Level)

เป้าหมายในปี ค.ศ. 2040 ของวอลโว่ก้าวไปไกลกว่าการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซจากท่อไอเสียรถยนต์ผ่านการใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่วอลโว่มีความเชี่ยวชาญในระดับแถวหน้าของโลก หากแผนการดำเนินงานครั้งนี้ยังมุ่งแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในเครือข่ายการผลิต การดำเนินงาน ห่วงโซ่อุปทาน และผ่านการรีไซเคิลและการนำวัสดุกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่

สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานระยะสั้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในปี ค.ศ. 2040 วอลโว่ คาร์ ได้เปลี่ยนมาใช้มาตรการที่ท้าทายอย่างทันท่วงทีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตหรือคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของรถยนต์วอลโว่ให้ได้ 40% ในระหว่างปี ค.ศ. 2018 – 2025 ซึ่งในกรอบเวลานี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายให้เครือข่ายการผลิตทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ด้วยเช่นกัน

"เรากำลังเปลี่ยนแปลงบริษัทของเราด้วยแผนการดำเนินที่เป็นรูปธรรม มิใช่แค่คำมั่นสัญญา" มร. ฮาคาน ซามูเอลส์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร วอลโว่ คาร์ กล่าว "ด้วยเหตุนี้ วอลโว่ คาร์ จึงให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราควบคุมได้ ซึ่งครอบคลุมทั้งการดำเนินงานของเราและการปล่อยก๊าซไอเสียจากรถยนต์ของเราด้วย ตลอดจนการให้ความสำคัญในส่วนที่เราสามารถชี้นำแนวทางได้ ผ่านการเชิญชวนให้ผู้แทนจำหน่ายของเราและหน่วยงานภาคพลังงาน หันมาร่วมมือกับเราเพื่อมุ่งสร้างสรรค์อนาคตที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์"

วอลโว่ตระหนักถึงความสำคัญของการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ของรถยนต์วอลโว่ให้ได้ 40% ภายในปี ค.ศ. 2025 จึงได้วางแผนระบบการทำงานใหม่ในการดำเนินงานหลายส่วนของบริษัท โดยก่อนหน้านี้วอลโว่ได้ประกาศเป้าหมายใน

การกำหนดให้รถยนต์ 50% ที่บริษัทจำหน่ายภายในปี ค.ศ. 2025 ต้องเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และจะส่งผลให้บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 50% ในระหว่างปี ค.ศ. 2018 ถึง 2025

ขั้นตอนการดำเนินงานระยะสั้นในด้านอื่น ๆ ยังรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 25% ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกภายในปี ค.ศ. 2025 การใช้พลาสติกรีไซเคิล 25% ในรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ภายในปี ค.ศ. 2025 และการลดการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัท ซึ่งรวมถึงการผลิตและการขนส่ง

วอลโว่ คาร์ เป็นผู้ผลิตรถยนต์แบบมาตรฐานรายแรกที่มุ่งเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบและยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ระบบสันดาปเชื้อเพลิง สำหรับในปีนี้ รถยนต์วอลโว่ที่เปิดตัวใหม่ทุกรุ่นจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และในวันนี้ วอลโว่ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรก นั่นคือ XC40 Recharge ซึ่งจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่น XC40 Recharge นี้ ถือเป็นการแสดงเจตจำนงอันแน่วแน่ของวอลโว่ในการกำหนดค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนฟุตพริ้นต์ตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่แต่ละรุ่นในอนาคต

XC40 Recharge คือรถยนต์รุ่นแรกในตระกูล Recharge ซึ่งเป็นตระกูลใหม่ของวอลโว่ คาร์ คำว่า Recharge สื่อถึงรถยนต์วอลโว่ที่สามารถประจุไฟใหม่ได้ด้วยระบบส่งกำลังปลั๊ก-อินไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยรถยนต์ตระกูล Recharge ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท และสนับสนุนผู้ขับขี่รถยนต์ระบบปลั๊ก-อินไฮบริดผ่านแรงจูงใจในการใช้โหมดขับขี่แบบ Pure mode ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

HTML::image(