ข้อตกลงแบบไตรภาคีเชิงกลยุทธ์นี้ได้มีขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยในปี 2563 ททท.จะมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของ Brand ประเทศไทย โดยผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ มุ่งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของททท.
ข้อตกลงดังกล่าวยังสนับสนุนเรื่องความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและการแก้ไขปัญหาขยะในทะเล โดยเฉพาะขยะพลาสติกในอาเซียน
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ความยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญสำหรับททท. เพื่อเตรียมรับการฉลองครบรอบ 60 ปี ในปี 2563 "การร่วมมือกับแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวระดับโลกอย่างเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป และองค์กรระหว่างประเทศอย่างยูเนสโกจะช่วยให้ททท.สามารถสร้างแรงจูงใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เร่งพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ภายในประเทศอีกด้วย ซึ่ง ททท. มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยได้มีโครงการ "ลดโลกเลอะ" เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวลดและเลิกการใช้พลาสติกที่ใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยว และหันมาใช้วัสดุ ธรรมชาติเพื่อทดแทน ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุในท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง"
ภายใต้ปฏิญญานี้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการลดและกำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นและกิจกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย
"ในความเป็นจริง ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในการปกป้องโลกและวัฒนธรรมของพวกเรา ปีที่แล้วเพียงแค่ปีเดียว มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 1.4 พันล้านคนที่เดินทางท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง" เอร์เนสโต อ็อตโตเน อาร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการทั่วไปด้านวัฒนธรรรม องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กล่าวว่า "ปฏิญญาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมีจุดมุ่งหมายคือเป็นการเปลี่ยนจากคำพูดให้เป็นการลงมือปฏิบัติ การร่วมมือกันระหว่างเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปและโครงการนำร่องโดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดปริมาณขยะในภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมบทบาทของด้านวัฒนธรรมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ดีต่อโลกและชุมชนและอาจเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญที่จะยกระดับการดำเนินการสู่ระดับโลก"
บันทึกความเข้าใจต่อเนื่องที่ได้รับการต่ออายุ (Memorandum of Understanding) ระหว่างเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นับตั้งแต่การประกาศบันทึกความเข้าใจฉบับก่อน เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปได้ทำงานร่วมกับททท. อย่างใกล้ชิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดใหม่ต่าง ๆ อาทิ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ความพยายามดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการด้านที่พักในเชียงรายผ่านทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ปีต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นนักเดินทางท่องเที่ยวชาวต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าประเภทที่มีมูลค่าสูง ซึ่งมีการใช้จ่ายกว่า 10 % สำหรับค่าที่พักในแต่ละวัน โดยประมาณ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เลือกจองโรงแรมระดับสี่หรือห้าดาว ซึ่งสูงกว่านักท่องเที่ยวในประเทศถึง 1.5 เท่า[1]
ในบันทึกความเข้าใจที่มีการต่ออายุฉบับนี้ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปจะสนับสนุนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของ ททท. โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ซึ่งเน้นการเจาะกลุ่มคุณภาพรายกลุ่ม (Segment) ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อม(Go high) กลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ (Go New Customer) และการกระตุ้นการเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว(Go Low Season) รวมทั้ง ใช้ระบบดิจิทัล เป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการเข้าถึงลูกค้า (Go Digital) โดยประกอบด้วย:
คุณอัง ชู พิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ ภาคพื้นเอเชียของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปกล่าวว่าปฏิญญาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมของพาร์ทเนอร์สของเราในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งยังกล่าวเสริมว่าเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ ททท. และยูเนสโก ซึ่งทั้งสององค์กรนับเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการท่องเที่ยวและความยั่งยืน
"ทุกคนมีหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อช่วยอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามทั่วโลก เราจะทำงานร่วมกับททท. และยูเนสโกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราจะร่วมมือกับภาคธุรกิจการให้บริการ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและแนวทางปฏิบัติด้านการท่องเที่ยวเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการท่องเที่ยวเดินทางแบบยั่งยืนในประเทศไทย" คุณอัง ชู พิน กล่าวเสริม
เกี่ยวกับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป
เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป คือแพลตฟอร์มสำหรับการท่องเที่ยวระดับโลก เราช่วยทำลายอุปสรรคในการเดินทาง ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น เพลิดเพลินมากขึ้น และสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าและพาร์ทเนอร์รอบโลกของเรา เราสามารถทำให้โลกอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม เราใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของเราในแบรนด์ที่หลากหลายเพื่อให้บริการการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก แบรนด์ของเราประกอบด้วย: Brand Expedia(R), Hotels.com(R), Expedia(R) Partner Solutions, Vrbo(R), Egencia(R), trivago(R), HomeAway(R), Orbitz(R), Travelocity(R), Hotwire(R), Wotif(R), ebookers(R), CheapTickets(R), Expedia Group(TM) Media Solutions, Expedia Local Expert(R), CarRentals.com(TM), Expedia(R) CruiseShipCenters(R), Classic Vacations(R), Traveldoo(R), VacationRentals.com and SilverRail(TM)
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit