นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ สตง. ได้ตรวจสอบเรื่องการจัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมการรองรับคุณภาพซ้ำ (Re-Accredit) ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นในด้านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดและให้บุคลากรตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการ บทบาทหน้าที่ และปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี มีแผนยุทธศาสตร์ด้านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ โดยกำหนดดำเนินโครงการ จำนวน ๒ รุ่น งบประมาณ ๑๘๒,๐๐๐.๐๐ บาท ซึ่งถูกตั้งประเด็นข้อสงสัยว่า ดำเนินการโดยชอบด้วยระเบียบ กฎหมายหรือไม่ จากการตรวจสอบของ สตง. สามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ดังนี้
โดยล่าสุด สตง. ได้รับแจ้งผลการดำเนินการทางวินัยและทางละเมิดเรียบร้อยแล้ว กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด โดยได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้วมีความเห็นว่าการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการเบิกโดยไม่มีสิทธิและเป็นการเบิกจ่ายจากการทำเอกสารหลักฐานเท็จทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย อันเป็นการกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐด้วยความจงใจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน ๘ ราย ซึ่งมีส่วนรู้เห็นจึงต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนให้แก่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในส่วนของความผิดทางวินัย กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยไล่ออกจากราชการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน ๖ รายแล้ว สำหรับกรณีความผิดทางอาญา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ ๓ (จังหวัดนครปฐม) ได้ดำเนินการจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้กับสำนักงาน ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
"จากผลการตรวจสอบดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสามารถนำเงินแผ่นดินคืนจากผู้กระทำการทุจริตและมีการลงโทษทางวินัยกับผู้กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นการป้องปรามมิให้เกิดการกระทำความผิดในกรณีเดียวกันนี้อีก" ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าว