เป็นอีกครั้งที่เดอะเฮ้าส์ออนสาทร (The House on Sathorn) นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าตื่นเต้นให้กับเหล่านักชิม ครั้งนี้ เปิดตัวห้องอาหารใหมกับคอนเซ็ปต์โมเดิร์นไทยซีฟู้ด ที่เลือกสรรวัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพทั้งจากท้องถิ่นและนำเข้า ภายใต้ชื่อ พาย ที่ตั้งอยู่ในแลนด์มาร์คเก่าแก่อายุกว่า 130 ปี ความหมายของชื่อห้องอาหารกล่าวถึง "การพายเรือ" ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก หลวงสาทรราชายุกต์ เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คนแรก นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและผู้ริเริ่มขุดคลองสาทรในช่วงเวลานั้น
พาย นำทีมโดยเอ็กซ์เซกคลูทีฟเชฟ เชฟโจ วีรเกติ์ นิลายน ผู้ซึ่งได้ทำการรังสรรค์หลากหลายเมนูที่โดดเด่นทั้งในรสชาติและการเลือกใช้วัตถุดิบ เมนูไฮไลท์ที่แนะนำ อาทิ กุ้งแม่น้ำย่างตัวใหญ่ราดซอสฉู่ฉี่, หอยหลอดฝรั่งเศสปรุงแบบฟลัมเบ้ด้วยซอสเอ็กซ์โอโฮมเมด, ปลาเทอร์บอทนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสเผาเกลือยัดไส้สมุนไพรไทย และที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือ เมนูข้าวผัดปูจานยักษ์ สำหรับรับประทานร่วมกัน ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การเลือกใช้ข้าวหอมออร์แกนิคจากจังหวัดนครปฐมและเนื้อปูชิ้นโตนึ่งสดๆกว่าครึ่งกิโลกรัมจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เดอะเฮ้าส์ออนสาทร เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2558 หลังจากการปรับปรุงครั้งใหญ่โดยกรมศิลปากร การตกแต่งภายในของ พาย ยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมเดิมของอาคารหลังนี้ ผสมผสานชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยที่ตกแต่งไว้ภายใน
"พวกเราตื่นเต้นและดีใจมากกับคอนเซ็ปต์อาหารใหม่สำหับเดอะเฮ้าส์ออนสาทร" คุณทีน่า ลิว ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (Ms. Tina Liu, General Manager of W Bangkok) กล่าว "การผสมผสานกันระหว่างเรื่องราวในอดีตและความสมัยใหม่แบบฉบับดับเบิ้ลยูของโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ทำให้คฤหาสน์หลังนี้มีความเอกลักษณ์ที่ลงตัว และการเพิ่มเติม พาย ที่นำเสนออาหารสไตล์โมเดิร์นไทยซีฟู้ด เข้ากันที่สุดกับเรื่องราวของเดอะเฮ้าส์ออนสาทร"
พาย มีโซนให้เลือกนั่งทั้งด้านนอกและด้านในของอาคาร เปิดให้บริการแล้วสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นทุกวัน ระหว่างเวลา 12.00 – 24.00 น. และยังมีบาร์ที่บริการอาหารทานเล่นและค็อกเทลที่ถูกออกแบบขึ้นอย่างพิถีพิถันพร้อมกับบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 344 4025 หรืออีเมล [email protected]
ติดตามข่าวสารอัพเดทของเดอะเฮ้าส์ออนสาทร ได้ที่ www.facebook.com/paiibangkok หรือเว็บไซต์ www.thehouseonsathorn.com/paii
ชุบชีวิตใหม่ให้กับแลนด์มาร์คใจกลางกรุงเทพ
อาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นบ้านพักของครอบครัว หลวงสาทรราชายุกต์ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเป็นผู้ริเริ่มขุดคลองสาทร อาคารนี้กลายเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกหลาน จนกระทั่งช่วงปี พ.ศ. 2463 ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมหรู โฮเทล รอยัล จากนั้นระหว่างปี พ.ศ. 2491- 2452 คฤหาสน์นี้ถูกนำไปเช่าต่อเป็นที่ทำการสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย
ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันสำคัญของตัวอาคาร ทีมงานได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรอย่างใกล้ชิด เพื่อบูรณะอาคารหลังนี้ให้กลับมาสวยสง่างามดังเช่นในอดีต และเพื่อรับหน้าที่ใหม่สำหรับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร การปรับปรุงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับตึกหลักทั้งสี่หลังรวมทั้งสนามหญ้าโดยยังรักษาโครงสร้างเดิมของตึกไว้อย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับรายละเอียดภายใน แนวทางการใช้สี ราวบันไดไม้ที่สลักลายอย่างวิจิตร และรูปปูนเปียกนูนต่ำลวดลายประจำตระกูลของหลวงสาทรราชายุกต์ก็ได้รับการบูรณะไว้ตามแบบเดิมไม่ผิดเพี้ยนในความดูแลของกรมศิลปากร ในด้านรายละเอียดสมัยใหม่ที่เพิ่มความขัดแย้งอย่างลงตัวให้กับอาคารนี้เป็นผลงานการออกแบบของบริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง AvroKO จากนิวยอร์ก
เดอะเฮ้าส์ออนสาทร
หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อพ.ศ. 2558 เดอะเฮ้าส์ออนสาทรได้กลายเป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารและเครื่องดื่มของกรุงเทพมหานคร อาคารสไตล์โคโลเนียลหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2432 เริ่มต้นเป็นบ้านพักของหลวงสาทรราชายุกต์ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2463 ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงแรม และจากนั้นระหว่างปี พ.ศ. 2491- 2452 อาคารแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการสถานทูตรัสเซียแห่งแรกประจำประเทศไทย
ปัจจุบัน เดอะเฮ้าส์ออนสาทรโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่ตั้งกลางใจเมืองกรุงเทพมหานครท่ามกลางตึกสูงระฟ้ามากมาย เดอะเฮ้าส์ออนสาทรตั้งอยู่ติดกับโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ภายในแลนมาร์คแห่งนี้ ประกอบไปด้วย พาย ที่เสิร์ฟอาหารโมเดิร์นไทยซีฟู้ด ทั้งด้านในและด้านนอกท่ามกลางสวนสวยใจกลางบ้าน และ เดอะบาร์ สถานที่พบปะช่วงระหว่างวันหรือนั่งเพลิดเพลินหลังเลิกงาน นอกจากนี้ยังมี อัพสแตร์ส คลับเลานจ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับการจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัว และเดอะคอนเซอร์วาทอรี่ และห้องจัดเลี้ยงอื่นๆ สำหรับการประชุมสัมนาหรืออีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงพิธีแต่งงานแบบเรียบหรู
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit