ราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 2.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 1.45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 65.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 2.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 1.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 83.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 85.22 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นโดยอุปทานน้ำมันดิบในตลาดลดลงต่อเนื่องจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นจากสถานการณ์สงครามการเมืองในลิเบีย มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน และเวเนซุเอลา ที่เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงมาตรการลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันช่วงปลายสัปดาห์ลดลง หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump กดดัน OPEC ให้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเพื่อทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน (Gasoline) ในสหรัฐฯ ลดลง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ6 เดือน ทั้งนี้นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดี Trump ได้กดดัน OPEC หลายครั้ง ผ่าน Twitter ซึ่งมักต้องการจะให้ราคาน้ำมันดิบลดลง โดยมีผลกระทบในตลาดเพียงชั่วคราว อย่างไรก็ตามทางการสหรัฐฯ แถลงว่าจะไม่ผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรให้จีนนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่าน โดยหลังวันที่ 1 พ.ค. 62 ถ้าจีนไม่หยุดซื้อน้ำมันอิหร่าน สหรัฐฯ จะปิดกั้นธนาคารจีนจากระบบการเงินของสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน นาย Mohammad Javad Zarif กล่าวว่าอิหร่านมีทางเลือกที่จะยกเลิกสนธิสัญญาต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Non-Proliferation Treaty) อย่างไรก็ดีอุปทานน้ำมันดิบรัสเซียที่ตึงตัวจากปัญหาการปนเปื้อน Chloride มีแนวโน้มจะคลายตัว หลังรัสเซียเจรจากับเบลารุส ยูเครน และโปแลนด์ ทุกฝ่ายยอมรับแผนกลับมาสูบถ่ายน้ำมันดิบผ่านท่อขนส่ง Druzhba (ปริมาณสูบถ่าย 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ภายใน 2 สัปดาห์ ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในวันที่ 30 เม.ย.- 1 พ.ค. 62 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีวาระพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสำรองส่วนเกินของธนาคารพาณิชย์ (Interest on Excess Reserves: IOER) เพื่อให้ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ย Effective Fed Funds Rate (EFFR) ที่ระดับ 2.44 % ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 71.0-75.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบNYMEX WTI อยู่ในกรอบ 63.0-67.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 70.5-74.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของอินเดียและศรีลังกา ประกอบกับ Sinopec มีแผนปิดซ่อมบำรุงหน่วย Hydrocracking (กำลังการกลั่น 34,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่โรงกลั่น Tianjin (กำลังการกลั่น 277,000 บาร์เรลต่อวัน) ช่วงวันที่ 10 พ.ค. - 5 มิ.ย. 62 ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 19 เม.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 225.8 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด24 เม.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.44 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 14.44 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Platts รายงานตลาดน้ำมันเบนซินบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนซบเซา เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัว และกรมศุลกากรของจีน (General Administration of Customs หรือ GAC) รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน มี.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 204.5 % อยู่ที่ 14.37 ล้านบาร์เรล ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซิน จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 83.0-87.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเนื่องจากสำนักวิจัยด้านพลังงาน Sublime China Information (SCI99) ของจีนรายงานอัตราการกลั่นของโรงกลั่นอิสระ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.85% มาอยู่ที่ 59.68% ต่ำสุดตั้งแต่ 3 ส.ค. 61 อีกทั้ง Sinopec มีแผนปิดซ่อมบำรุงหน่วย ที่โรงกลั่น Tianjin (กำลังการกลั่น 277,000บาร์เรลต่อวัน) โดยปิด Delayed Coking หน่วยที่ 1 กำลังการผลิต 21,800 บาร์เรลต่อวัน วันที่ 1 - 7 ก.ค. 62 และ หน่วยที่ 2 กำลังการผลิต 42,000 บาร์เรลต่อวันวันที่ 5 - 15 ส.ค. 62 ประกอบกับ EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 700,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 127 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และ IES รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 1.20 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 9.34 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามโรงกลั่นในอินเดียและอียิปต์ออกประมูลขายน้ำมันดีเซล และ GAC ของจีนรายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซล ในเดือน มี.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.2 % อยู่ที่ 20.33 ล้านบาร์เรล ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 84.5-88.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit