กอปภ.ก. ประสานจังหวัดภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 7 – 11 พ.ค. 62

08 May 2019
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ 6 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 7 - 11 พ.ค. 62 โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลังและเครื่องจักรกลสาธารณภัย รวมถึงจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมแจ้งเตือนประชาชนติดตามข่าวสาร พยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เปิดเผยว่า กอปภ.ก. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ กอปรกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตกได้ออกประกาศฉบับที่ 1 (11/2562) ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 เรื่อง ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7 – 10 พฤษภาคม 2562 เนื่องจากลมตะวันตกกำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล มีคลื่นลมแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ระหว่างวันที่ 7 – 11 พฤษภาคม 2562 กอปภ.ก.จึงได้สั่งการให้จังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หากสถานการณ์คลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือ ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรวดออกจากฝั่ง ทั้งนี้ สามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป