ปภ.รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 7 จังหวัด พร้อมประสานจังหวัดวางแผนบริหารจัดการน้ำ – จัดสรรน้ำอุปโภคบริโภคทั่วถึง

08 May 2019
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครราชสีมา มหาสารคาม ตราด และชลบุรี รวม 18 อำเภอ 61 ตำบล 439 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ได้จัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน พร้อมกำหนดจุดแจกจ่ายน้ำที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ รวมถึงวางแผนบริหารจัดการน้ำและจัดสรรน้ำอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครราชสีมา มหาสารคาม ตราด และชลบุรี รวม 18 อำเภอ 61 ตำบล 439 หมู่บ้าน โดยพิษณุโลก ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) ในอำเภอวัดโบสถ์ รวม 4 ตำบล 38 หมู่บ้าน ร้อยเอ็ด ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสรวง และอำเภอสุวรรณภูมิ รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน ศรีสะเกษ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอไพรบึง อำเภอศรีรัตนะ อำเภอขุนหาญ อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ รวม 16 ตำบล 116 หมู่บ้าน นครราชสีมา ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอสูงเนิน และอำเภอพระทองคำ รวม 4 ตำบล 35 หมู่บ้าน มหาสารคาม 2 อำเภอ ได้แก่ วาปีปทุม และพยัฆภูมิพิสัย รวม 11 ตำบล 79 หมู่บ้าน ตราด ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด อำเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่ รวม 23 ตำบล 154 หมู่บ้าน และชลบุรี ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะสีชัง รวม 1 ตำบล 7 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อม แก้ไขปัญหาภัยแล้งไว้ล่วงหน้าครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการจัดชุดปฏิบัติการสำรวจข้อมูลสถานการณ์น้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำและประมาณการใช้น้ำในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ โดยแยกเป็น น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีแหล่งน้ำ ควบคู่กับการปรับปรุงบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งให้เป็นปัจจุบัน อีกทั้งตรวจสอบภาชนะกักเก็บน้ำให้ใช้การได้เพียงพอ พร้อมกำหนดจุดแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนทราบ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป