สำหรับการเพิ่มขึ้นของรายได้รวม และรายได้จากการลงทุนสุทธิดังกล่าว เนื่องจากกองทรัสต์ HREIT มีรายได้เพิ่มขึ้น จากผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยมีอัตราการเช่า ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 84.5% ประกอบกับการลงทุนเพิ่มในอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการเช่า 100% อย่างต่อเนื่องเพื่อขยายขนาดกองทรัสต์ ซึ่งที่ผ่านมา กองทรัสต์ HREIT มีการลงทุนเพิ่มเติมแล้ว 2 ครั้ง ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน กองทรัสต์ HREIT มีพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 332,505 ตร.ม.
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 ในอัตรา 0.1987 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้ประโยชน์ตอบแทนกองทรัสต์ HREIT โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 และวันขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 16 พฤษภาคม 2562
"สำหรับไตรมาสนี้ กองทรัสต์ HREIT ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยทั้งจำนวน โดยไม่มีการลดทุน ซึ่งสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นของกองทรัสต์ HREIT ดังจะเห็นได้จากอัตราการเช่า ณ สิ้น
ไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 84.5% ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องจากต้นปีที่มีอัตราการเช่าอยู่ที่ 80.8% และคาดว่าปีนี้ทั้งปีจะสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ในรูปแบบเงินปันผลทั้งจำนวน ซึ่งหากพิจารณาจากการจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ย้อนหลังในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับราคาตลาดของหน่วยทรัสต์ในปัจจุบัน จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 9% ถือเป็นกองทรัสต์ที่มีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากผลประกอบการที่เติบโตและอัตราการเช่าที่สูงขึ้นจากอานิสงส์การย้ายฐานการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนจีน และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งพื้นที่ของเรากว่า 90% อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริม" นายเภรี กล่าว
กรรมการผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กองทรัสต์อยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 3 เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าสำเร็จรูปของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ขนาดประมาณ 31,500 ตารางเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว มีอัตราการเช่าเต็ม 100% ซึ่งจะส่งผลให้ทรัพย์สินของ HREIT หลังลงทุนเพิ่มเติมในครั้งที่ 3 แล้ว จะมีจำนวนรวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท
"สำหรับภาพรวมสถานการณ์การเมือง - เศรษฐกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ได้ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ในขณะเดียวกันทางกองทรัสต์ฯ กลับได้อานิสงส์จากปัจจัยสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนจีน และญี่ปุ่น หันมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจากปัจจัยข้างต้น จะส่งเสริมให้การเติบโตของอัตราการเช่าโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าสำเร็จรูป เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit