พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังเปิดงานว่า จากการสำรวจพบว่าปัจจุบันมีร้านอาหารไทยอยู่ทั่วโลกมากกว่า 20,000 ร้าน ขณะที่สถานทูตและสถานกงสุล มี 168 แห่ง และเรือสำราญอีกกว่า 55 ลำ ที่มีการจ้างพ่อครัวแม่ครัวไทยในการประกอบอาหาร โดยมีรายได้เดือนละ 40,000-90,000 บาท สร้างรายได้ส่งกลับประเทศกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานเครือข่าย อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สถาบันการศึกษา สถาบันอาหาร มติชน Academy เป็นต้น ได้ตั้งเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบอาหารไทยกว่า 15,700 คน ประกอบด้วยการฝึกอบรมผู้ประกอบอาหารไทย 13,000 คน ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาผู้ประกอบอาหารไทย 2,500 คน และฝึกอบรมผู้ประกอบการอาหารไทยมืออาชีพ (Professional Thai Chef) จำนวน 200 คน
รมว.แรงงาน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน จะมีการจัดแสดงและสาธิตการปรุงอาหารไทยที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ 10 เมนู ได้แก่ มัสมั่น ผัดไทย แกงเขียวหวานไก่ ต้มยำกุ้ง ต้มยำไก่ พะแนงหมู หมูสะเต๊ะ ส้มตำ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และ ปอเปี๊ยะทอด นอกจากนี้ ยังมีเมนูขนมไทยที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติคือ ข้าวเหนียวมะม่วง และ ทับทิมกรอบ ส่วนกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ คือ อบรม Professional Chef จำนวน 1 รุ่น อบรมการประกอบอาหารไทย 15 เมนู มอบเงินรางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะการประกวดแข่งขัน แกงมัสมั่นไก่ (World Best Food Dish by CNN) มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานระดับ 1 ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 400 คน สาธิตการประกอบอาหารไทยโดยเยาวชนที่เข้าร่วม World Skill Kazan 2019 และแกงมัสมั่นไก่ตำรับวังยะหริ่งอีกด้วย