นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ชาวประมงพื้นบ้านเสนอขอใช้อวนตาห่างขึ้น จากเดิมที่กำหนดให้เรือประมงพื้นบ้านขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอสทำ
การประมงนอกเขตระยะ 1,000 เมตร ส่วน
เรือประมงพาณิชย์ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่งประมาณ 5,400 เมตรนับจากขอบน้ำตลอดแนวชาวฝั่งทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล โดยกำหนดขนาดใช้ตาอวนขนาด 2×2 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่ชาวประมงพื้นบ้านต้องการขยายตาอวนเพื่อจับ "เคยโกร่ง" ที่เป็นเคยขนาดใหญ่ประมาณ 7 – 32 มิลลิเมตร จึงขอผ่อนปรนให้ใช้ตาอวนขนาด 2×4 มิลลิเมตร ซึ่งจากการหารือร่วมกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายลักษณ์ วจนานวัช) และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นควรให้ยกเลิกประกาศกระทรวงฯ พ.ศ. 2559 และให้ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใหม่ เพื่อกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับรูปแบบของอวน ขนาดของเรือ วิธีที่ใช้ บริเวณพื้นที่ และระยะเวลาในการทำประมงที่ผู้ทำการประมงด้วยเครื่องมืออวนรุนเคย ที่ใช้ประกอบเรือยนต์ทำการประมงต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 กำหนดให้การทำประมงด้วยเครื่องมืออวนรุนเคยประกอบเรือยนต์ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป ที่ใช้อวนขนาดช่องตาไม่เกิน 2×2 มิลลิเมตร ให้ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่งเท่านั้น ส่วนเรือยนต์ที่มีขนาด 10 ตันกรอสขึ้นไป แต่ไม่ถึง 15 ตันกรอส และอธิบดีกรมประมงอนุญาตให้ทำประมงพื้นบ้านต่อไปตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 หรือการทำประมงด้วยเครื่องมืออวนรุนเคยประกอบเรือยนต์ที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอสลงมาสามารถใช้ขนาดช่องตาอวน 2×4 มิลลิเมตรได้ โดยให้ทำการประมงนอกเขตระยะ 1,000 เมตร นับจากขอบน้ำตามแนวชาวฝั่งขณะทำการประมง เฉพาะในอ่าวไทย ตัว ก เขตจังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา ในระหว่างวันที่ 16 เมษายน 2562 ถึง 30 เมษายน 2562 และระหว่างวันที่ 16 เมษายน 2563 ถึง 30 มิถุนายน 2563
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ให้เรือประมงพื้นบ้านซึ่งมีขนาดเล็กสามารถขยับเข้ามาทำการประมงใกล้ชายฝั่งมากขึ้นนั้น ชาวประมงพื้นบ้านจะสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติวิสัยและมีความปลอดภัยในการเดินเรือ จากที่ก่อนหน้านี้ชาวประมงพื้นบ้านส่วนหนึ่งต้องหยุดออกเรือหรือเลิกทำประมงเพราะผลกระทบจากข้อกำหนดของประกาศฯ ฉบับเดิม อีกทั้งการผ่อนปรนให้ใช้อวนที่มีขนาดตา 2×4 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ชาวประมงใช้กันอยู่และเหมาะกับการรุน "เคยโกร่ง" จะช่วยให้ชาวประมงมีรายได้จากการจับ "เคยโกร่ง" ขายมากขึ้น พร้อมกันนี้กรมประมงจะได้ศึกษาข้อมูลทางวิชาการจากการผ่อนปรนทั้งขนาดตาอวน พื้นที่ และระยะเวลาทำประมงเพื่อนำไปปรับข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีประมงพื้นบ้าน ในอนาคตอาจเพิ่มพื้นที่ทำการประมงเพื่อให้ชาวประมงประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน ประกอบกับการกำหนดขนาดตาอวน 2×4 มม. ตามประกาศกระทรวงฯ ฉบับใหม่ให้ทำ 2 ปีก่อนคือ ปี 2562 และ ปี 2563 เพื่อกรมประมงจะได้ศึกษาวิจัยร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านไปด้วยเกี่ยวกับพื้นที่และระยะเวลาทำประมง โดยหากมีพื้นที่ที่พบเคยโกร่งมากขึ้นก็อาจออกประกาศขยายพื้นที่ทำการประมง ส่วนระยะเวลาที่กำหนดตามประกาศเป็นไปตามที่ชาวประมงพื้นบ้านระบุว่า พบเคยโกร่งเยอะที่สุด และหากไม่นำเคยโกร่งมาใช้ประโยชน์ในการทำอาหารก็จะสูญเปล่า เนื่องจากเคยโกร่งมีวงจรชีวิตสั้นเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมเท่านั้น หากศึกษาแล้วพบว่าช่วงเวลาที่พบเคยโกร่งยาวนานกว่านี้ ก็อาจขยายเวลาทำการประมงอวนรุนเคยได้อีก ซึ่งขณะนี้กรมประมงได้นำประกาศกระทรวงฯ ฉบับใหม่ส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป