คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering : TSE) เปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมแห่งอนาคต เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิศวกรรมครบวงจรของคนรุ่นใหม่ โดยมุ่งเน้นการประยุกต์องค์ความรู้ทางวิศวกรรมนำไปสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ รวมถึงการส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม พร้อมโชว์เทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด วิศวกรรมเพื่อคนไทยสุขภาพดี (Engineering for Health) อาทิ ระบบเตือนผู้ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์และพาร์กินสันเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ นวัตกรรมถนอมอาหารแนวใหม่ด้วยคลื่นไมโครเวฟได้คุณค่าทางโภชนาการครบเพื่อภาคอุตสาหกรรม และงานวิจัยรับเทรนด์อาหารปลอดภัย ที่พบสารปนเปื้อนในปลาดอร์ลี่ เกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งงานเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th/ และ Facebook fanpage ของ TSE ที่www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT
รศ.ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) กล่าวว่า การเปิดศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม เกิดขึ้นจากความตั้งใจเพื่อให้นักศึกษามีแหล่งเรียนรู้ที่ครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้จนจบหลักสูตร และเป็นการส่งเสริมให้เกิดวิศวกรรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพทั้งด้านวิชาการและสามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางวิศวกรรม นำไปต่อยอดกับความรู้แขนงอื่นๆ สู่การสร้างสรรค์ คิดค้น และพัฒนาเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายให้นักศึกษา ใช้ความรู้ความสามารถที่ได้จากการใช้งานศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมไปใช้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคที่มีการแข่งขันสูงและไร้พรมแดน
ปัจจุบัน TSE มีศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม ทั้งหมด 4 ศูนย์ฯ ประกอบด้วย
1.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการใช้ประโยชน์จากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในงานวิศวกรรมมีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์จากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ามาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในกระบวนการผลิต และต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้
2.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการออกแบบและพัฒนาต้นแบบทางวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์ มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานวิจัยและนวัตกรรม โดยกำหนดให้มีการสร้างนวัตกรรมให้สามารถนำไปสู่การใช้งานจริงเพื่อขับเคลื่อนสังคมได้ เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม พลังงานทางเลือก เทคโนโลยีด้านเกษตร ด้านสุขภาพเพื่อผู้ด้อยโอกาสในประเทศไทย เป็นต้น
3. ศูนย์ความเป็นเลิศด้านตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีและการดูดซับด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนารูปแบบการใช้ประโยชน์จากการใช้แสงร่วมกับตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี ที่สามารถลดอันตรายของสารเคมี และลดการปนเปื้อนของสารเคมีต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นการยกระดับการผลิตพลังงานสะอาดที่มีความปลอดภัยสูง
4.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมและสมรรถนะของวัสดุ เน้นการพัฒนาวัสดุและชิ้นส่วนทางวิศวกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์ในการทำวิจัยเชิงลึก เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ราคาถูก ผลิตได้เองในประเทศ รวมถึงย กระดับงานวิจัยไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
รศ.ดร.ธีร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาคณะฯ ได้แสดงศักยภาพที่สะท้อนความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม โดยได้คิดค้นเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมจำนวนมาก จนเป็นที่ยอมรับจากเวทีต่างๆ ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยที่สะท้อนความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม ภายใต้แนวคิด วิศวกรรมเพื่อคนไทยสุขภาพดี (Engineering for Health) อาทิ
ทั้งนี้ การเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม พร้อมการนำโชว์เคสงานวิจัยและนวัตกรรมสุดล้ำมาจัดแสดง ภายใต้แนวคิด "Engineering for Health" วิศวกรรมเพื่อคนไทยสุขภาพดี จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ โถงห้องสมุดคณะวิศวกรรมศาสตร์ (TSE) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) โดยมีคณะผู้บริหาร อาจารย์ และบุคลากรของคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมถึงผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก โดยสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th/ และ Facebook fanpage ของ TSE ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit