นิช คาร์ กรุ๊ปเผยโฉมสุดยอดซูเปอร์คาร์ระดับโลก แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ ครั้งแรกในไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40

26 Mar 2019
นิช คาร์ กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แมคลาเรน อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวแมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ รุ่นที่สองของซูเปอร์ซีรีส์ อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมด้วยการจัดแสดงรถยนต์แมคลาเรน 570เอส สไปเดอร์ และโครงรถแมคลาเรน สุดยอดเทคโนโลยีอันน่าทึ่งระดับตำนานรถแข่ง เชื่อมั่นทั้งสามคันจะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าชมงานและผู้ชื่นชอบรถซูเปอร์คาร์ ในงานรถประจำปีอันยิ่งใหญ่ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ประจำปี 2562 ณ บูธ A19/2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562
นิช คาร์ กรุ๊ปเผยโฉมสุดยอดซูเปอร์คาร์ระดับโลก แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ ครั้งแรกในไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40

มร.ปีเตอร์ เซลล์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียใต้ แมคลาเรน ออโตโมทีฟ ผู้คร่ำหวอดแห่งวงการรถยนต์ สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมยานยนต์ และทำงานร่วมกับแมคลาเรนอย่างใกล้ชิดเป็นเวลากว่าทศวรรษ มร.ปีเตอร์ เซลล์ เข้างานร่วมงานจัดแสดงรถครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นตัวแทนผู้บริหารจากแมคลาเรน เขาคาดการณ์ว่าการเปิดตัวแมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ จะสร้างความสนใจอย่างมากในงานนี้

"แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ เป็นรถเปิดประทุน ที่มีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และเร้าใจ และจะสร้างปรากฏการณ์การขับรถให้ก้าวล้ำสู่อีกระดับปรากฏการณ์ใหม่ของรถซูเปอร์คาร์อย่างแท้จริง ด้วยน้ำหนักที่เบา ประสิทธิภาพอันทรงพลัง และนวัตกรรมการออกแบบอย่างเหนือชั้น แมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ ในซูเปอร์ซีรีส์นี้จะเผยให้เห็นการใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างน่าทึ่งในการสรรสร้างนวัตกรรมที่จะปฏิวัติวงการยานยนต์ซูเปอร์คาร์อย่างสิ้นเชิง นิช คาร์ มีศักยภาพอย่างยิ่งในการส่งต่อความมุ่งมั่นของเราให้แก่ตลาดในประเทศไทย"

แมคลาเรน 720เอส ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 29.5 ล้านบาท จัดเป็นรถเปิดประทุนบรรจุดีเอ็นเอซูเปอร์ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เคยผลิตมา ประกอบด้วยเครื่องยนต์วี8 ขนาด 4 ลิตร ทวินเทอร์โบ และเป็นรถเปิดประทุนโมเดลแรกของแมคลาเรนที่นำเสนอลักษณะเด่นการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในโครงสร้างช่วงบน ทำให้น้ำหนักเบาลงอย่างมากที่สุดเพียง 1,332 กิโลกรัม สร้างประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ขับด้วยขุมพลัง 720 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร และยังสามารถเลือกโหมดการแสดงผลการขับแบบสะดวกสบาย (Comfort) สปอร์ต (Sport) และสนามแข่ง (Track) ด้วยความเร็วสูงสุด 341 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในใน 2.9 วินาที

ระบบแชสซีคอนโทรลทูแบบโพรแอคทีฟ (The Proactive Chassis Control II system) พัฒนาสมรรถนะและความคล่องตัวของรถให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบกันสั่นสะเทือนไฮดรอลิกที่ริเริ่มบุกเบิกในแมคลาเรนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานในทุกวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังคาแข็งเปิดปิดแทบไร้เสียงมาพร้อมกับกระจกอัฉริยะอิเล็กทรอโครมิก เทคโนโลยีภาพและเสียงระดับเวิล์ดคลาส ประตูเปิดแบบไดฮีดรัล(Dihedral doors) ไร้กรอบแบบดับเบิ้ลสกินเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศได้อย่างเหนือชั้น พื้นที่และการมองเห็นยังได้รับการพัฒนาถึงขีดสุดด้วยการเพิ่มครีบยันลอยเคลือบเงา

นิช คาร์ กรุ๊ป ได้รับการไว้วางใจให้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ระดับตำนานกว่า 30 ปี คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ นิช คาร์ กรุ๊ป บริหารงานบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นก้าวสู่ความทันสมัย ล้ำสู่อนาคต ขับเคลื่อนนำพาบริษัทสู่อีกก้าวของตลาดรถยนต์ไฮเอนด์ โดยเขามีความตื่นเต้นยินดีที่ได้เปิดตัวซูเปอร์คาร์ในงานจัดแสดงรถยนต์ประจำปีที่โด่งดังครั้งนี้ งานที่ทุกคนพลาดไม่ได้

"นิช คาร์ กรุ๊ป เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาอย่างยาวนาน เราได้รับความสนใจจากผู้เข้าเยี่ยมชมในทุกปี และในปีนี้ รถยนต์แมคลาเรนผลงานชิ้นเอกทั้งสามคันที่เรานำมาจัดแสดงจะได้รับการจัดให้เป็นไฮไลต์ของงานครั้งนี้อย่างแน่นอน นับเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของเราในฐานะผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และงานนี้ยังถือเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบของบริษัทเราในการเปิดตัวแมคลาเรน 720เอส สไปเดอร์ เปิดประทุน ให้แก่ผู้ชื่นชอบรถยนต์ซูเปอร์คาร์และแฟน ๆ ของแมคลาเรนได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก"

นอกจากนี้ยังมี แมคลาเรน 570เอส สไปเดอร์ เป็นอีกดาวเด่นในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 26.5 ล้านบาท เป็นโมเดลสปอร์ตซีรีส์ที่กวาดมาแล้วหลากหลายรางวัล นำเสนอคุณลักษณะเด่น เครื่องยนต์วี8 ทวินเทอร์โบชาร์จ ความจุ 3.8 ลิตร ทรงพลัง 570 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร เร่งความเร็วสูงสุดที่ 328 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.2 วินาที โครงคาร์บอนโมโนเซลทูสร้างอัตราส่วนต่อน้ำหนักอันน่าทึ่ง สร้างความเร้าใจในการขับทั้งบนท้องถนนปกติและบนสนามแข่ง หลังคาแข็งเปิดปิด กระจกบังลมเคลือบเงา และระบบพวงมาลัยไฮดรอลิกไฟฟ้ายิ่งสร้างความเร้าใจให้กับการขับเปิดประทุน

นิช คาร์ กรุ๊ป ยังภูมิใจเสนอการจัดแสดงโครงรถแมคลาเรน ที่จะตอกย้ำชื่อเสียงของผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่ได้รับการยกย่องในฐานะนักนวัตกรรมยานยนต์ระดับปรมาจารย์ ผู้ชื่นชอบซูเปอร์คาร์สามารถยลโฉมได้อย่างใกล้ชิด ตระการตากับเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ที่ใช้ในรถแข่งฟอร์มูล่าวันและในนาซ่า นวัตกรรมที่ริเริ่มโดยแมคลาเรนเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความแข็งแกร่ง การออกแบบการขับขี่ล้อหลังเครื่องยนต์ขนาดกลางยังเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนตัว แมคลาเรนยังเป็นผู้ริ่เริ่มพัฒนาระบบควบคุมแชสซีเชิงรุกทำงานร่วมกับระบบพวงมาลัยไฮดรอลิกไฟฟ้าเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับที่เร้าใจยิ่งขึ้น ระบบเบรกไวเปอร์เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะติดพื้นถนนเปียกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีเบรกเสตียร์ที่ออกแบบโดยแมคลาเรน และถูกห้ามใช้ในการแข่งฟอร์มูล่าวัน เนื่องจากเป็นการเพิ่มเสถียรภาพของรถได้อย่างเหนือชั้น ก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดแสดงยานยนต์แมคลาเรนที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ หรือข้อมูลเกี่ยวกับ นิช คาร์ กรุ๊ป สามารถติดต่อ 02-321 -1111 โชว์รูมที่ถนนมอเตอร์เวย์ 1 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.30 – 17.30 น.

เกี่ยวกับ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด

นิช คาร์ กรุ๊ป คือ ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ และไฮเปอร์คาร์ ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจเป็นเวลากว่า 30 ปี ภายใต้ชื่อเดิมคือ เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป ปัจจุบัน นิช คาร์ กรุ๊ป ได้รวบรวมสุดยอดยนตรกรรมจากทั่วโลก อาทิ สุดยอดสองสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษที่รวมอยู่ใน Formula 1 "แมคลาเรน" (McLaren) และ ซูเปอร์คาร์พันธุ์คลาสสิก "โลตัส" (Lotus) รวมถึงไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี "ปากานี" (Pagani) และ ไฮเปอร์คาร์สัญชาติสวีเดน "โคนิกเซ็กก์" (Koenigsegg) ราชันต์ออฟโรด "ฮัมเมอร์" (Hummer) จากอเมริกา พร้อมด้วยโชว์รูมที่ สยามพารากอน และ มอเตอร์เวย์ กม.1

หากต้องการข้อเพิ่มเติมเกี่ยวกับ นิช คาร์ กรุ๊ป สามารถติดต่อ ที่ โทร 02-321-1111 โดยโชว์รูมเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.

HTML::image( HTML::image(