ก่อนอื่นพระภาณุวัฒน์เกริ่นว่า คณะสงฆ์มหายานในประเทศไทยมี 2 นิกายคือ คณะสงฆ์จีนนิกายที่มาจากประเทศจีน และคณะสงฆ์อนัมนิกายที่มาจากประเทศเวียดนาม สิ่งที่สงสัยกันคือศาสนาพุทธมหายาน มีหลักปฏิบัติอย่างไร มีพระธรรมคำสั่งสอนอย่างไร
"ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธฝ่ายมหายานจำเป็นที่จะต้องรู้มหาปณิธาน 4 ข้อ ซึ่งเป็นโรดแม็ป (Road Map) เพื่อจะได้ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธศาสนามหายานไปถึงที่สุด เพราะศาสนาพุทธทุกนิกายมีจุดหมายปลายทางที่เดียวกัน คือ นิพพาน เหมือนกับที่อุปมาอุปมัยว่า เราจะไปถึงสถานที่หนึ่งซึ่งเราตั้งใจด้วยรถเมล์ก็ได้ สามล้อก็ได้ แท็กซี่ก็ได้ รถไฟฟ้าใต้ดินก็ได้ หรือเดินก็ได้ วิธีการอาจจะแตกต่างไป แต่ท้ายที่สุดแล้วจุดหมายปลายทางอยู่ที่เดียวกัน"
มหาปณิธาน 4 ข้อของศาสนาพุทธ คือ 1. ตั้งปณิธานในการโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้น 2. ตั้งปณิธานในการละบาป และกิเลสอาสวะทั้งหลายให้หมดสิ้น 3. ตั้งปณิธานในการศึกษาพระพุทธธรรมทั้งหลายจนเจนจบ 4. ตั้งปณิธานเพื่อการบรรลุสู่พระพุทธภูมิพระสัมโพธิญาณในอนาคต
สำหรับเป้าหมายสู่มหาปณิธาน 4 ข้อนี้ มีหลากหลายแนวทางเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ อาทิ มหายานสอนเรื่องความเมตตากรุณา ซึ่งต้องควบคู่กับการมีปัญญา เพราะจะช่วยประคับประคองให้สามารถดำเนินชีวิตด้วยความมีสติ นอกจากนี้การนั่งสมาธิก็ทำให้เกิดความสงบ หากมีสมาธิมีสติในการกระทำ ในการพูด และการคิดก็จะไปควบคุมไม่ให้กายวาจาใจบกพร่อง
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดเล่งเน่ยยี่ 2 แจกแจงรายละเอียดมหาปณิธานข้อที่ 1.ว่า การโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้น เพราะมหายานไม่ได้ว่าเน้นเฉพาะตัวเอง มนุษยชาติทั้งหลายต้องได้รับส่วนในการตรัสรู้ด้วย ข้อที่ 2 ในเรื่องการละความบาป เป็นการละหนทางบาปทั้งหลายทั้งปวง หรือแม้แต่บาปที่เกิดในใจแล้วก็ละให้หมดสิ้น รวมถึงบาปที่ยังไม่เกิด ต้องสำรวมระวังอย่าให้เกิด เมื่อเกิดแล้วจงทำให้ทุเลาเบาบางจนหมดสิ้น พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดบาปใหม่ ข้อที่ 3 ศึกษาพระพุทธธรรมทั้งหลายให้เจนจบ การศึกษาธรรมเป็นเรื่องดี เป็นของดี แต่การศึกษาพระธรรมนั้นต้องให้มีสติ พระพุทธเจ้าทรงวางฐานในการศึกษา ถึงแม้ว่าผู้นี้จะเป็นครูเป็นอาจารย์ เป็นผู้ที่มีความรู้ทางธรรมอย่างมากก็อย่าเชื่อ ให้เชื่อด้วยการไตร่ตรองพิจารณา "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเลยว่า จงอย่าเชื่อว่านี่คือ ตถาคต ขอให้ท่านพิจารณาด้วยตนเองอย่างถ่องแท้ พิจารณาด้วยสติปัญญา พิจารณาเรื่องกระบวนการทางความคิดที่เป็นสัมมาทิฐิ เชื่อว่าสิ่งนั้นเป็นจริง แล้วจึงนำสิ่งนั้นไปปฏิบัติ" ข้อที่ 4 ขอตั้งปณิธานเพื่อถึงพระนิพานนั่นเอง ภาษาทางศาสนาพุทธมีคำที่นอกจากนิพพานใช้คำว่า พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
พุทธบริษัทในศาสนาพุทธประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในฐานะอุบาสก อุบาสิกา มีหน้าที่ที่ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญโดยตรงที่จำเป็นจะต้องศึกษา ที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติ อย่าได้มอบภาระทั้งหมดทั้งปวงของศาสนาให้กับนักบวชเท่านั้น แต่ทุกคน ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่พุทธองค์ได้ทรงมอบหมายภาระให้ นั่นก็คือพระพุทธศาสนาพระองค์มอบให้กับริษัททั้ง 4 ฉะนั้นแล้ว ผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จำเป็นที่จะต้องนำมหาปณิธานทั้ง 4 มาต่อยอดด้วยการปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติแล้วก็จะเกิดผล สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
พระภาณุวัฒน์ย้ำว่าศาสนาพุทธฝ่ายมหายานนั้น สอนเรื่องความเมตตากรุณา เป็นสิ่งที่สำคัญและต้องควบคู่ด้วยปัญญา ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องสร้างปัญญาจากการฝึกสติสัมปชัญญะ เมื่อมีสติสัมปชัญญะ จึงมีปัญญาในการที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นสุข
ถ้าเป็นพระสงฆ์ฝ่ายมหายานจะมีสิกขาบท 250 ข้อ หากเป็นพระสงฆ์ฝ่ายเถรวาทจะมี 227 ข้อ แต่สิกขาบทที่มากกว่าของมหายาน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วมีความใกล้เคียงกัน 98 เปอร์เซนต์ แต่ศาสนาพุธมหายานนั้นมีสิกขาบทอีกประเภทหนึ่งเรียกว่าพระโพธิสัตว์ศีล
สำหรับการที่พระสงฆ์จีนในนิกายมหายานไม่บิณฑบาตนั้น พระภาณุวัฒน์อธิบายว่า เนื่องจากได้สมาทานศีลเรื่องการฉันอาหารเจ จึงไม่มีการบิณฑบาต ขณะเดียวกันญาติโยมสาธุชนที่ปฏิบัติธรรมในทางพุทธศาสนามหายานก็มีการสมาทานศีลกินเจไปด้วย เพราะการกินเจนั้นไม่ใช่คุณประโยชน์ทางด้านสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณประโยชน์ในการเจริญจิตตนเอง ยกระดับจิตตนเองให้มีเมตตากรุณา ให้มีการอนุเคราะห์ต่อเวไนยสัตว์ทั้งหลายด้วย ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรมตามแนวหลักของพระพุทธศาสนามหายาน
สนใจร่วมฟังธรรมะบรรยายในโครงการ"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ได้ที่ ชั้น 11 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00 -13:30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit