นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมการรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 โดยมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกันเพื่อส่งประชาชนกลับบ้านได้อย่างมี "ความสุข สะดวก ประหยัด และปลอดภัย" ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.62 รวมระยะเวลา 7 วัน โดยตั้งเป้าหมายว่า ประชาชนต้องได้รับความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างเพียงพอ ไม่ล่าช้าและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง บริหารจัดการจราจร เส้นทางบนโครงข่ายคมนาคมไม่ติดขัด หรือหยุดนิ่งเป็นเวลานาน สามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บบนโครงข่ายคมนาคม จะต้องลดลงร้อยละ 5 โดยจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บบนโครงข่ายคมนาคมที่เป็นจุดเสี่ยง จุดควบคุมและสายทางเฝ้าระวัง จะต้องลดลงร้อยละ 10 ขณะเดียวกันผู้ประจำรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือ ต้องมีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ ตามมาตรฐานและข้อกำหนดความปลอดภัย ไม่เสพสิ่งเสพติด ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการใช้บริการในระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางด่วน ทางยกระดับดอนเมือง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนน และทางลักผ่าน
ด้าน พลตำรวจตรี ชัช สุกแก้วณรงค์ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 กรมทางหลวงคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถยนต์เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ยังภูมิลำเนาตามภาคต่าง ๆ เป็นจำนวนมากกว่าที่ผ่านมาถึงร้อยละ 4.1 โดยคาดว่าจะมีปริมาณรถช่วงขาออกมากกว่า 3.9 ล้านคน คิดเป็นรถที่เดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า 5.9 แสนคัน
กองบังคับการตำรวจทางหลวง เล็งเห็นถึงความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และความสะดวกในการจราจรของพี่น้องประชาชนผู้เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว จึงได้ดำเนินมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยการจราจรใน 3 มิติหลักคือ การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน การอำนวยการจราจร และการให้บริการแก่พี่น้องประชาชน โดยร่วมกับเครือข่ายภาครัฐและจิตอาสา ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวะการอาชีพ บริษัท สยามยีเอสเซลล์ จำกัด บริษัท สยามกลกาลอะไหล่ จำกัด กลุ่มธุรกิจ TCP และร้านอาหารข้าวแกงบ้านสวน จ.พระนครศรีอยุธยา จัดโครงการ "GS BATTERY พร้อมเป็นพลังให้คุณทุกเส้นทาง" ในวันที่ 11-12 เม.ย.62 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและสร้างความนันทนาการด้านต่าง ๆ ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวได้รับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายมนไทย เลาหะวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้นำตลาดแบตเตอรี่ในประเทศไทยมากว่า 60 ปี กล่าวเสริมถึงการจัดกิจกรรมคืนกำไรสู่สังคมช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ภายใต้โครงการ "GS BATTERY พร้อมเป็นพลังให้คุณทุกเส้นทาง" ว่า โครงการดังกล่าวจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 เพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการรณรงค์ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุช่วงวันหยุดยาว โดยบริษัทฯ ใช้งบประมาณกว่า 2.5 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งประกอบด้วยเปิดให้บริการตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ฟรี โดยช่างผู้ชำนาญการจาก GS BATTERY พร้อมมอบแบตเตอรี่ Hybrid Extra 135 และ แบตเตอรี่ รุ่น MFX Series รวมทั้งสิ้น 15 ลูก ให้แก่กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้ประโยชน์ในหน่วยงานราชการ นอกจากนั้นยังมอบน้ำดื่ม 2.1 หมื่นขวด ผ้าเย็น 7 พันผืน และพัด 4 อัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนผู้เดินทางรวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
กิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 11-12 เม.ย.62 ใน 3 พื้นที่หลักคือ จุดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดหลักที่ร่วมมือกับ กองบังคับการตำรวจทางหลวงคือ ร้านอาหารข้าวแกงบ้านสวน 2 จ.พระนครศรีอยุธยา และจุดย่อย บริเวณจุดพักรถถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาออก จ.ฉะเชิงเทรา และหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะร่วมมือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ให้ความรู้ร่วมรณรงค์ในเรื่องขับช้าตามที่กฎหมายกำหนด ช่วยลดอุบัติเหตุถึงบ้านปลอดภัย, คาดเข็มขัด ทุกครั้ง ทุกที่นั่ง ขณะขับขี่ และโดยสาร, เปิดไฟหน้าในเวลากลางวัน ช่วยลดอุบัติเหตุในเวลากลางวัน 30%,มอเตอร์ไซค์ ใส่หมวกกันน็อก สามารถลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้ 69%
"แบตพลังอึด GS BATTERY จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ เพื่อตอบแทนสังคม และสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ เพื่อให้คนไทยทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ผู้สนใจ พบกับกิจกรรมดี ๆ ของ GS BATTERY และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsBATTERY.co.th" นายมนไทย กล่าวในที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit