เริ่มต้นกันก่อน กับเทรนด์ชุดเจ้าสาว โดยกูรู สมิท ตอฮา จากร้าน khamis zain กล่าวว่า "ชุดในปีนี้เน้นที่ความเรียบหรู โก้เก๋ ไม่ฟองฟูเหมือนที่ผ่านมา แต่ยังคงแฝงกลิ่นอายของความเป็นเจ้าหญิง ไม่เปลี่ยนแปลง ความหรูมาจากการเลือกใช้ลูกไม้ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการปักเลื่อมและลูกเล่นต่างๆ ผ่านการดีไซน์และตัดเย็บที่ยังคงเน้นที่ความประณีตพิถีพิถัน สีชุดยังคงเน้นสีขาว เป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะเลือกสีอื่นก็ไม่ผิด ฮิญาบหรือผ้าคลุมผมจะสอดคล้องกับความเรียบหรูของ ชุดเจ้าสาว ความสั้น-ยาว ตามสไตล์ของแต่ละบุคคล แต่ยังคงเน้นการคลุมผ้าให้รูปหน้าเป็นแบบวีเชฟ เพื่อความเรียวของใบหน้า สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดสำหรับการแต่งกายของเจ้าสาวมุสลิม คือ ต้องมิดชิดทุกส่วน ไม่บาง ไม่เห็นเนื้อหรือผิวหนัง ปิดถึงลำคอ เห็นแต่เพียงใบหน้าที่โดดเด่นและสวยงามเท่านั้น"
ด้านเครื่องประดับ ซอบีระห์ อูยุบ ผู้บริหารร้านซอบีระห์ เจมส์ อาณาจักรชุดเพชรสุดหรู แห่งวงการมุสลิมไทย กล่าวว่า "กระแสออเจ้าหรือเครื่องประดับสไตล์ย้อนยุคยังคงได้รับ ความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเรือนขนาดค่อนข้างใหญ่สีทอง ประดับด้วยทับทิมหรือมรกต มีหลากหลายรูปทรง อาทิ สี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หรือรูปช่อดอกไม้ นอกจากนี้ ยังมีสร้อยคอเส้นยาว ลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรีที่ล้อมรอบด้วยเพชรเรียงร้อยต่อกัน เพื่อเพิ่ม ความสวยงามและโดดเด่นตัดกับชุดเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี"
ปิดท้ายที่สไตล์การแต่งหน้า จากคำแนะนำของ โคซายน์หรือวิรัญชนา แสงแก้ว เมคอัพอาร์ตทิส คิวทองและบล็อกเกอร์คนดังในวงการมุสลิมไทย กล่าวว่า "การแต่งหน้าสไตล์เจ้าสาวมุสลิมที่กำลังได้รับความนิยม จะเป็นการแต่งหน้าเน้นตาคมแบบสาวอาหรับ หน้าดูโกลว์ ฉ่ำวาว และค่อยๆ เกลี่ยเพิ่มสีสันไปที่จุดอื่นๆ บนใบหน้า เพื่อให้การแต่งหน้ามีความบาลานซ์ โดยที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของตนเอง และข้อห้ามก่อนการแต่งหน้า คือ ห้าม ทายาสิว เลเซอร์สิว เพราะว่าจะทำให้ผิวไวต่อแสง อาจจะเกิดการระคายเคืองต่อการแต่งหน้าได้ค่ะ"
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit