วิจัยกรุงศรีปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 โต 3.2% จากผลกระทบสงครามการค้า

24 Jun 2019
วิจัยกรุงศรี ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 3.2% เพื่อสะท้อนถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรง และยกระดับสู่สงครามเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยวิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์มูลค่าส่งออกในปีนี้มาเป็นติดลบ 1.5% หลังจากการส่งออกของไทยไปยังตลาดสำคัญๆ ส่วนใหญ่ชะลอตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและบรรยากาศทางการค้าที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และจีน และประเทศคู่ค้าอื่นๆ
วิจัยกรุงศรีปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 โต 3.2% จากผลกระทบสงครามการค้า

ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า " วิจัยกรุงศรีปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.2% จากเดิมคาด 3.8% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจในไตรมาสแรกที่ผ่านมาชะลอตัวกว่าคาด กอปรกับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ชัดเจนและรุนแรงขึ้นตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้คาดว่าจะกลับมาหดตัวที่ -1.5% จากเดิมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.5% และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 40.2 ล้านคน ปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 41.1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี หากปัจจัยภายในประเทศปรับไปในทิศทางเป็นบวกมากขึ้น โดยเฉพาะการมีรัฐบาลชุดใหม่ที่สร้างความชัดเจนด้านนโยบายเศรษฐกิจและโครงการสำคัญๆ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และช่วยหนุนให้กิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าได้ต่อเนื่อง"

ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของทางการที่ 1-4% ในช่วงที่เหลือของปี โดยมีปัจจัยบวกจากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการพยุงเศรษฐกิจกลางปีวงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท วิจัยกรุงศรีจึงยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1%

"ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แต่คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน อาทิ การก่อหนี้ของภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อหนี้ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร วิจัยกรุงศรีจึงคาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ " ดร.สมประวิณกล่าว

เกี่ยวกับกรุงศรี

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานกว่า 74 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 699 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 660 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 39 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,732 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.3 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย

กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ "แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)

มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 1,800 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 150,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้ง MUFG Bank, Ltd. มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น "กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก" ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก