เมื่อถึงเวลาอันดีประตูแห่งความสนุกได้เปิดขึ้นให้ทุกคนได้เข้าไปจับจองพื้นที่เพื่อรอชมศิลปินคนโปรดอย่างเป็นระเบียบ และแล้วก็ถึงเวลาโชว์ไทม์ด้วยการเรียกน้ำย่อยกับโชว์จากศิลปินเลือดใหม่น่าจับตามองจากสไปร์ซซี่ ดิสก์ ไม่ว่าจะเป็น NAP A LEAN (แนป อะ ลีน), Zommarie (ส้ม มารี),จิ้ง Helmet Heads (เฮลเม็ท เฮดส์), เก๊ทThe Rube (เดอะ รู้บ), TAPE (เทป)และ No One Else (โน วัน เอลส์ )มาพร้อมเพลงดังของพวกเขา ก่อนจะส่งต่อเวทีให้เจ้าของคอนเสิร์ตตัวจริง เดอะ พาร์คินสัน ที่ขอเปิดงานด้วยเพลงซิกเนเจอร์ของวงนั่นคือ จะบอกเธอว่ารัก ให้ทุกคนได้วอร์มเสียงก่อนจะต่อเนื่องด้วยเพลย์ลิสต์เพลงรักให้ทุกคนได้ฟังเพลินๆ ตามด้วยเชิญเกสต์คนแรกอย่าง สิงโต นำโชค ขึ้นมาโซโล่กีต้าร์ประชันกับกานต์ ในเพลง หมดแก้วที่บาดลึกถึงอารมณ์แต่จะให้มาเพลงเดียวก็ดูจะไม่เต็มอิ่มจึงขอต่อด้วย อยู่ต่อเลยได้ไหม และอาย พร้อมส่งต่อเวทีให้เดอะ พาร์คินสันได้โซโล่ต่อในเพลงคนชั่ว 2018, สักวัน จากนั้นกานต์ได้เดินลงมาในกลุ่มผู้ชมเพื่อมองหาเจ้าของเพลง เมื่อคืน อย่าง ซีซันไฟว์ ที่มาร่วมให้กำลังใจวง และร่วมร้องเพลงนี้กันเล็กน้อย ตามมาด้วยเพลงเศร้าของคนแอบรักอย่าง ต้องโทษดาว ที่กานต์ขอให้ทุกคนพร้อมใจกันเปิดแฟลชมือถือจนสว่างและสวยงามไปทั่วฮอล์ ต่อด้วยเพลง ไปเถอะ มาขยี้อารมณ์มากขึ้น หลังจากเศร้ากันอย่างเต็มที่แล้ว พวกเขาขอเบรคให้ทุกคนได้พักอารมณ์กันก่อนจะพบกับเกสต์คนต่อมาอย่าง แสตมป์ อภิวัชร์ ในเพลง มันคงเป็นความรัก, ทั้งจำทั้งปรับ ที่แม้วันนี้จะไม่มี ยังโอม แต่เรามี ยังโต!! จัดคอสตูมได้เหมือนยังโอมมาเอง ที่มาแร็พในเพลงนี้แทน พร้อมพักทักทายกับแฟนๆ ที่ส่งเสียงกรี๊ดกันสนั่น แต่อย่างที่บอกคอนเสิร์ตครั้งนี้พวกเขาขอจัดเต็มจึงไม่รอช้าส่งต่อเข้าเพลงต่อไปกับคืนนี้ ชวนให้ทุกคนได้ขยับร่างกายกันอย่างสนุกสนานแต่ความสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีเกสต์คนสุดท้ายที่รอขึ้นมามอบความสนุกอีกหนึ่งท่านคือ ดา เอ็นโดรฟิน ให้แฟนๆ ได้ฟินกันทั้งฮอลล์ด้วยเพลง ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน และ ระหว่างเราคืออะไร เพลงที่ดาและเดอะพาร์คินสันร้องด้วยกัน เมื่อเวลาได้เดินมาถึงช่วงสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเพราะ เดอะ พาร์คินสัน ขอหยิบเอาเพลง แอบชอบ, เธอทั้งนั้น, เป็นประจำ ที่ได้ เป้ แซ็คจากวงมายด์มาร่วมเพิ่มสีสันในท่อนแซ็คมากขึ้น, September เป็นเซ็ตเพลงระเบิดฟลอร์ให้ทุกคนได้เต้นกันอย่างสนุกสนาน ก่อนปิดท้ายด้วย เพื่อนรักเพลงที่ทำให้ทุกคนร้องตามสนั่นฮอลล์ตั้งแต่ดนตรีขึ้นทุกคนก็ส่งเสียงกรี๊ดกันอย่างพร้อมเพรียง และส่งท้ายค่ำคืนนี้ด้วย Let' get it on เพลงโซลขนานแท้ของ Marvin Gaye ที่เดอะ พาร์คินสัน นำมาโชว์เป็นการตอกย้ำว่าเป็นวงดนตรีโซลที่มากฝีมือจัดจ้านอย่างแท้จริง
งานนี้ใครที่จับจองบัตร คอนเสิร์ต "LEO Presents The Parkinson SOULMANTIC คอนเสิร์ตจะบอกเธอว่ารัก" ไม่ทันไม่ต้องเสียใจไปสามารถเข้าไปชมภาพความประทับของงานนี้ได้ทาง www.facebook.com/Spicydiscrecord หรือ www.facebook.com/theparkinson เราจะรวบรวมภาพความสนุกในวันนั้นมาให้ได้ชมกัน พร้อมติดตามกันต่อไปว่าครั้งหน้า SPICYDISC (สไปร์ซซี่ ดิสก์) จะมีคอนเสิร์ตดีดีจากศิลปินคนไหนมาให้ชมกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit