นายวิทวัส ตันติเวสส ประธานคณะบริหารโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ของซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการคอนเน็กซ์ อีดี เป็นมิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับคุณภาพการศึกษา และพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ของบริษัท ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนตามแนวทางยุทธศาสตร์ยกระดับการศึกษาของไทยสู่มาตรฐานสากล ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ซึ่งปีการศึกษา 2561 นี้ ซีพีเอฟสนับสนุนงบประมาณให้กับ 123 โรงเรียน ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และชัยภูมิ
นอกจากนี้ บริษัทฯ สนับสนุนอาสาสมัครผู้นำรุ่นใหม่เป็น School Partners (SP) จำนวน 57 คน ร่วมส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริหารสถานศึกษาในการพัฒนาโรงเรียน รวมถึงการให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการทำแผนโครงการของโรงเรียน โดย School Partner 1 คน จะรับผิดชอบดูแล 2-3 โรงเรียน ซึ่งจากการสำรวจความต้องการของโรงเรียนในโครงการคอนเน็กซ์ อีดี รุ่น 2 พบว่ากิจกรรมที่โรงเรียนนำเสนอส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพให้แก่นักเรียน
"บริษัทฯ เดินหน้าสนับสนุนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี รุ่น 2 ตอกย้ำความมุ่งมั่นมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาพื้นฐานของประเทศ ขณะเดียวกันได้ปลูกฝังและพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ของบริษัท ใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ เพื่อผลักดันโครงการให้สำเร็จตามเป้าหมาย" ประธานคณะบริหารโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ของซีพีเอฟ กล่าว
นายวิทวัส ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึง การติดตามและประเมินผลโครงการคอนเน็กซ์ อีดี รุ่น 1 ซึ่งบริษัทฯให้งบประมาณสนับสนุน 195 โรงเรียน สะท้อนผลสัมฤทธิ์ของโครงการผ่านผลการเรียนของนักเรียนที่ดีขึ้น อาทิ โรงเรียนหนองนกเขียนสามัคคี อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเคยมีปัญหาผลการเรียนของนักเรียนในกลุ่มวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด แต่หลังจากที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการคอนเน็กซ์ อีดี และนำเสนอของบประมาณเพื่อสนับสนุนการนำหลักสูตรแก้โจทย์ปัญหาด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษมาใช้ ผ่านไป 1 ปีการศึกษา ผลการประเมินการทดสอบความสามารถพื้นฐานผู้เรียนระดับชาติ (NT) ประจำปีการศึกษา 2561 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของระดับประเทศ และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ
ด้านนายวีระศักดิ์ เกียรติเมธา ในฐานะ School Partners รุ่น 1 และ รุ่น 2 ซึ่งปัจจุบันรับผิดชอบ 3 โรงเรียนในโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา คือ โรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล โรงเรียนบ้านโคกสูง และโรงเรียนประชาสามัคคี กล่าวว่า โครงการคอนเน็กซ์ อีดี ต้องมองนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ชุมชนมีส่วนร่วม และเป็นโครงการที่มีความยั่งยืน ซึ่งนอกเหนือจากโรงเรียนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นที่ 2 แล้ว ยังมีโรงเรียนที่ต่อยอดมาจากรุ่น 1 อาทิ โรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล พัฒนานักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและบกพร่องทางสติปัญญา ทำโครงการผัดหมี่โคราชสร้างเถ้าแก่น้อย โดยในปีนี้จะต่อยอดโครงการสู่เป้าหมายการผลิตหมี่โคราชกึ่งสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายเป็นของฝาก เป็นการฝึกทักษะให้นักเรียนทั้งการผลิตและการจำหน่าย จากเมื่อปีที่ผ่านมา น้องๆนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและบกพร่องทางสติปัญญาได้รับการถ่ายทอดความรู้จากร้านผัดหมี่โคราชที่ชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดและสร้างหลักสูตรไว้ให้โรงเรียนได้ถ่ายทอดสู่นักเรียนรุ่นต่อรุ่น
สำหรับปีนี้ โรงเรียนประชาสามัคคีนำเสนอโครงการฝึกอาชีพให้แก่นักเรียน คือ โครงการร้านกาแฟในโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนมีนักเรียนมากกว่า 500 คน ซึ่งมีนักเรียนบางกลุ่มที่ไม่สามารถเรียนต่อในขั้นสูงต่อไป จึงได้นำเสนอโครงการที่เน้นการฝึกอาชีพ โดยจะมีการจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจัดทำหลักสูตรทั้งด้านการตลาด การจัดการร้าน สอนการชงกาแฟ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ โดยมีร้านกาแฟของโรงเรียนที่นักเรียนสามารถฝึกงานได้จริง และนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต
โรงเรียนบ้านโคกสูง นำเสนอกิจกรรมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ เป็นการต่อยอดกิจกรรมด้านการเกษตรที่โรงเรียนทำอยู่แล้วให้ครบวงจรและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ซึ่ง กิจกรรมที่โรงเรียนดำเนินการอยู่แล้วมี บ่อเลี้ยงปลา สวนผัก และสวนป่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการเลี้ยงไก่ไข่ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ ตอบโจทย์เรื่องให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ชุมชนมีส่วนร่วม และเกิดความยั่งยืน
ซีพีเอฟ เป็น 1 ใน 12 บริษัทเอกชนชั้นนำ ที่นำร่องสนับสนุนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี รุ่น 1 โดยได้สนับสนุนงบประมาณให้ 195 โรงเรียน และสร้างผู้นำรุ่นใหม่ของบริษัท เพื่อวางแผนพัฒนาโรงเรียนร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี รุ่น 2 ซึ่งมีบริษัทเอกชนร่วมโครงการอีก 21 บริษัท ซีพีเอฟมีส่วนร่วมสนับสนุนงบประมาณให้ 123 โรงเรียน และมีเป้าหมายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ หรือSP อีก 57 คน เพื่อทำงานร่วมกับผู้บริหารของโรงเรียนขับเคลื่อนแผนพัฒนาโรงเรียนสู่เป้าหมายสร้างนักเรียนเป็นทั้งเด็กดีและเด็กเก่ง .