ข้อมูลจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN Environment) ระบุว่า ปัจจุบัน คนทั่วไปมักเสพติดนิสัยการบริโภคและการใช้พลาสติกอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม โดยในทุกๆ 1 นาที จะมีคนซื้อขวดน้ำพลาสติก ราว 1 ล้านขวด และมีการใช้ถุงพลาสติก ราว 5 ล้านล้านถุงในแต่ละปี ซึ่งพลาสติกส่วนมากถูกออกแบบมาให้ใช้เพียงครั้งเดียว หรือใช้แล้วทิ้ง พลาสติกเหล่านี้เมื่อมีปริมาณมากขึ้นจนเกินสมดุลได้กลายเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและในน้ำ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ในแต่ละปี ขยะพลาสติกกว่า 8 ล้านตันถูกทิ้งและลงไปในมหาสมุทร ทำให้สัตว์ทะเลจำนวนไม่น้อย ทั้งเต่าทะเล ปลา นก ได้รับสารพิษจากการบริโภคถุงพลาสติก
นอกจากนี้ รายงานของ Ocean Conservancy ยังเผยว่า ไทยเป็นหนึ่งในหกประเทศที่ทำให้เกิดขยะพลาสติกร้อยละ 60 ของขยะทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก บริษัทซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) จึงร่วมกันรณรงค์ "ลดให้ถุงพลาสติก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน"
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาความยั่งยืน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ได้มีการดำเนินงานด้านการพัฒนาความยั่งยืนและได้รับการรับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภท Food & Staples Retailing ในปี 2560 ที่ผ่านมา และได้เริ่มดำเนินโครงการรณรงค์ลดและเลิกการใช้ถุงพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการ 7 Go Green (เซเว่น โก กรีน) ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันต่อเนื่องมากว่า 12 ปี ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ ผ่านโครงการต่างๆภายใต้โครงการ 'ลด และ เลิก ใช้ถุงพลาสติก"
"บริษัทฯ ยังได้ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ซีพี ออลล์ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับปรุงการดำเนินงานด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม และพร้อมเป็นองค์กรที่จะสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน สังคม และประเทศชาติ และสานต่อกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ดีๆเช่นนี้ต่อไป"
"ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องใกล้ตัวและส่งผลกระทบกับประชาชนทุกคน ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การลดใช้ถุงพลาสติกเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทุกคนสามารถร่วมมือร่วมใจกันได้ โดยลดการใช้อย่างแข็งขัน ร่วมกันเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยโลกให้สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภุมิอากาศให้ช้าลง" นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวเสริม
"การเดินหน้าบนเส้นทางที่มีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDG) เป็นหลักชัยนั้น ไม่สามารถเดินคนเดียวได้ ต้องเดินบนเส้นทางที่มีพันธมิตร เพื่อให้เกิดขยายผลในวงกว้าง เราจะสร้างเมืองที่สะอาดและยั่งยืนได้อย่างไร หากยังมีการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างต่อเนื่อง มีการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย วันนี้ ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือร่วมใจ ทำให้ผมมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเรากำลังร่วมกันเดินไปสู่จุดหมายเดียวกันวันนี้ คือ ทำให้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 11 การสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 12 การบริโภคและการผลิตอย่างมีวามรับผิดชอบ และ เป้าหมายที่ 13 ที่มุ่งมั่นต่อสู้กับภาวะโลกร้อน เป็นจริงได้" นายเรโนด์ เมเยอร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit