(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.28 น. ของวันที่ 05/07/2019)
แนวโน้มวันที่ 08 กรกฎาคม 2019
เจ้าหน้าที่คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า ผู้แทนระดับสูงจากสหรัฐและจีนจะจัดการเริ่มเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อพยายามแก้ไขสงครามการค้า ทั้งนี้ สหรัฐและจีนขัดแย้งทางการค้ามานานกว่า 1 ปี โดยปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายเก็บภาษีต่อสินค้าของอีกฝ่ายมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ภาษีของสหรัฐในปัจจุบันจะจำเป็นต้องถูกยกเลิก ถ้าจะมีข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แต่ นายแลร์รีย์ คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวระบุว่า ภาษีจะยังคงอยู่จนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้า ความตึงเครียดทางการค้าได้สร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ สงครามการค้ากำลังขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ เมื่อสหรัฐยื่นร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับภาษีตอบโต้ของอินเดียต่อผลิตภัณฑ์สหรัฐ ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางเยือนอินเดียเพื่อเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าของพวกเขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจของสหรัฐในการยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของอินเดีย ซึ่งหากสถานการณ์สงครามการค้ายังคงดำเนินต่อไป ก็จะสร้างแรงซื้อเข้าพยุงราคาทองคำไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงกดดัน จากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินยูโร ทั้งนี้ นายออลลี เรห์น สมาชิกคณะมนตรีบริหารของยุโรปกล่าวต่อหนังสือพิมพ์ Boersen Zeitung ของเยอรมนีว่า ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนไม่ใช่เรื่องชั่วคราวอีกต่อไป และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จำเป็นต้องดำเนินการกระตุ้นมากขึ้นหากมุ่งหวังบรรลุเป้าหมายของตน ท่าทีดังกล่าวกดดัน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของเยอรมนี ร่วงลง สอดคล้องกับ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ และ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ -0.4% เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดว่า ตลาดเตรียมพร้อมต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ประเด็นดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรให้อ่อนตัวลง ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำ ประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ ยังคงเป็นไปตามกรอบระหว่างแนวรับต้านสำคัญระหว่างวัน โดยมีลักษณะที่ค่อยๆปรับขึ้น หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,427-1,439 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ทำให้ประเมินว่าราคาทองคำ ก็อาจจะมีการย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น แม้ว่าทิศทางราคาทองคำจะยังคงเป็นบวก แต่ราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระดับสูง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,427-1,439 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,411 (20,450บาท) 1,405 (20,350บาท) 1,398 (20,250บาท)
แนวต้าน 1,427 (20,700บาท) 1,439 (20,850บาท) 1,448 (21,000บาท)
GOLD FUTURES (GFQ19)
แนวรับ 1,411 (20,620บาท) 1,405 (20,540บาท) 1,398 (20,440บาท)
แนวต้าน 1,427 (20,860บาท) 1,439 (21,040บาท) 1,448 (21,170บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-687-9999
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit