สภาอุตสาหกรรมฯ ผลักดันหลักสูตรนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 7 หวังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ

15 Jul 2019
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young F.T.I. Elite) รุ่นที่ 7 ประจำปี 2562 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยุคใหม่ ณ ห้อง Great Room ชั้น 3 โรงแรมดับเบิ้ลยูกรุงเทพ ถนนสาทร โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนกว่า 150 คน
สภาอุตสาหกรรมฯ ผลักดันหลักสูตรนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 7 หวังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่เพื่อสานต่อภารกิจในฐานะเป็นองค์กรกลางของประเทศ ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยให้เกิดความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก จึงได้ก่อตั้งโครงการหลักสูตร นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young F.T.I. Elite) ขึ้น ซึ่งในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 7 นอกจากความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากหลักสูตรแล้ว สิ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับคือ Network ระหว่าง Young ด้วยกัน ที่จะขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นเครือข่ายที่กว้างขวางครอบคลุมเกือบทุกอุตสาหกรรม สามารถเชื่อมโยง ช่วยเหลือ สนับสนุน และเกิดความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมระหว่างกันในอนาคต

แผนยุทธศาสตร์ของสภาอุตสาหกรรมฯ ในปี 2561 - 2563 ภาคอุตสาหกรรม เป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้อง และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเชื่อมโยงข้อมูลในทุกกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบขั้นตอนการผลิต การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการตรวจวัดสภาพการทำงานของเครื่องจักรต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริหารจัดการได้ดีขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ระบบสารสนเทศดังกล่าว สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับลูกค้าหรือคู่ค้า เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านให้กับลูกค้าได้ แนวคิดดังกล่าวนี้ เรียกว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4.0 (Industry 4.0 Revolution) เป้าหมายคือการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันและเพื่อเพิ่มผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ซึ่งในหลายๆ ประเทศ ได้นำหลักการนี้ไปใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน ดังนั้น อุตสาหกรรมไทยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้ และพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป" นายสุพันธุ์ กล่าว

นายกรกฤช จุฬางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานโครงการหลักสูตรนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ กล่าวเสริมว่า โครงการ "หลักสูตรนักอุตสาหกรรรมรุ่นใหม่" (YOUNG F.T.I. Elite) ได้เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2557 และจัดขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 7 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้สร้างนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ไปแล้ว 6 รุ่น และมีรุ่นพิเศษอีก 1 รุ่น คือ YOUNG F.T.I. LEGEND รวมขณะนี้มี YOUNG F.T.I. ที่ผ่านการอบรมจากหลักสูตรไปแล้วจำนวนกว่า 750 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนา นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ขึ้นมาให้เป็นกำลังสำคัญในการทำหน้าที่สนับสนุน และช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเน้นการเรียนรู้ในด้านต่างๆ จากประสบการณ์ตรงของนักอุตสาหกรรม รุ่นอาวุโส และการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับในรุ่นที่ 7 นี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้นจำนวน 151 คน โดยมีศิลปินและดารา 4 คน เข้าร่วมอบรมในหลักสูตรนี้ด้วย

หลักสูตรนี้ มีระยะเวลาการอบรม 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน 2562 มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 20 ท่าน ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงานจากนักอุตสาหกรรมรุ่นอาวุโสมากประสบการณ์ และยังได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ตลอดหลักสูตร อาทิ กิจกรรมละลายพฤติกรรม ณ พัทยา, การเยี่ยมชมโรงงานภายในประเทศ, กิจกรรม CSR, การศึกษาดูงาน ณ ประเทศอังกฤษ และพิเศษสุดกับกิจกรรม Y7 Friendship ณ ประเทศ Maldives โดยมีกำหนดพิธีปิดหลักสูตรพร้อมมอบโล่แก่ผู้สำเร็จหลักสูตรในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562" นายกรกฤช กล่าวทิ้งท้าย

สภาอุตสาหกรรมฯ ผลักดันหลักสูตรนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 7 หวังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ