ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนเพื่อทุกคนให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการดำเนินยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของหัวเว่ยเอง
ในงานแถลงข่าวเพื่อเผยแพร่รายงานฉบับนี้ มร. เหลียง หัว ประธานคณะกรรมการของหัวเว่ย กล่าวว่า "หัวเว่ยได้สร้างคุณค่าให้กับลูกค้าผ่านนวัตกรรม เรากำลังทำทุก ๆ อย่างที่สามารถทำได้เพื่อลดช่องว่างด้านดิจิทัล และตอบสนองความต้องการด้านการเชื่อมโยงสื่อสารของประชากรโลก" มร. เหลียง ได้กล่าวต่อว่า "เราต้องการที่จะทำให้บริการด้านดิจิทัลมีราคาถูกลงและให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยเท่าเทียมกัน รวมไปถึงการทำงานในส่วนของเราเองเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตต่อไป"มร. เหลียง อธิบายว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อมก็เป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งของโครงการต่างๆ ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของหัวเว่ย โดยเสริมว่า "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นเรื่องหลักที่ต้องพิจารณาสำหรับเครือข่ายการสื่อสารในอนาคต เราจึงต้องใช้พลังงานในการส่งดาต้าที่มีจำนวนมากขึ้นให้น้อยลง และลดการใช้ไฟโดยรวมของระบบพาวเวอร์ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยี ICT เข้ามาช่วยได้"
มร. เหลียง ได้อธิบายว่าหัวเว่ยได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ในช่วงการทำวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์และวางโครงสร้างด้านวิศวกรรมสำหรับเทคโนโลยี 5G หัวเว่ยได้ดำเนินการเพื่อลดปริมาณการใช้ไฟของไซต์ 5G ได้ต่ำกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมร้อยละ 20 ด้วยประสิทธิภาพของซิปเซ็ตตัวใหม่ ระบบซอฟท์แวร์ บริการระดับมืออาชีพ และฮาร์ดแวร์ที่มีความล้ำสมัย รวมไปถึงเทคโนโลยีกระจายความร้อนของหัวเว่ย นวัตกรรมเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ 5G ของหัวเว่ยใช้พลังงานไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และด้วยโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ยจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
มร. เควิน เทา กรรมการบริษัทและประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของหัวเว่ย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "เราต้องการที่จะนำประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวนี้ เราจึงได้เปิดตัวโครงการ TECH4ALL เพื่อให้ทุกคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ อาทิเช่น เมื่อปลายปี 2561 โซลูชั่น RuralStar ของเราสามารถช่วยให้ประชากร 40 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้"
มร. เทา กล่าวเสริมว่า "ปัจจุบันเราได้จัดหาบริการด้านการสื่อสารให้กับประชากรกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก และมีความมุ่งมั่นให้การสนับสนุนการปฏิบัติการของเครือข่ายที่ปลอดภัยทั่วโลก และเราก็ทำตามที่ได้ตั้งใจไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ตัวอย่างเช่น" เขากล่าวต่อ "จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวระดับ 7.7 ริคเตอร์ในอินโดนีเซียเมื่อปี 2561 หัวเว่ยเป็นเวนเดอร์รายแรกและเพียงรายเดียวที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่"
มร. เทา ยังได้ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ในด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสองประการใหญ่ๆ ประการแรกคือ หัวเว่ยได้ขยายขอบเขตยุทธศาสตร์เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลออกไปสู่ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างดิจิทัลเพื่อทุกคน ในด้านการวางระบบเชื่อมโยงสื่อสาร บริษัทยังได้ให้ความสำคัญกับการใช้งานและการสร้างทักษะด้านดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ประการที่สองคือ ยุทธศาสตร์ของบริษัทในด้านการสนับสนุนการปฏิบัติการของเครือข่ายให้มั่นคงและปลอดภัย และยกระดับการป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ให้เป็นยุทธศาสตร์ด้าน "ความปลอดภัยและความเชื่อมั่น"
หัวเว่ยได้ผสานยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านนวัตกรรม การสร้างคุณค่าและการแบ่งปันคุณค่ากับพันธมิตร เพื่อที่ว่าบริษัทจะสามารถสร้างคุณค่าทางธุรกิจและคุณค่าเพื่อสังคมที่ยิ่งใหญ่กว่า สำหรับเป้าหมายในอนาคต หัวเว่ยจะทุ่มเททำงานให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการดำเนินงานในส่วนของตนเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนสืบไป
เอกสารแนบ 1 รายงานการพัฒนาด้านความยั่งยืน ประจำปี 2561 สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์นี้
http://www.huawei.com/en/sustainability/sustainability-report
เอกสารแนบ 2 บทสรุปย่อของรายงานการพัฒนาด้านความยั่งยืน ประจำปี 2561
การสร้างดิจิทัลสำหรับทุกคน : เทคโนโลยีควรเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้ใช้ประโยชน์ แต่เรื่องนี้ยังถือว่าห่างไกลจากความเป็นจริง จากข้อมูลของสมาคม GSMA มีครัวเรือนอีกร้อยละ 66 ที่ยังไม่สามารถติดต่อสื่อสารกัน และอีกเกือบ 4 พันล้านคนทั่วโลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ประชากรทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคนยังขาดบริการโมบายบรอดแบนด์ที่เชื่อถือได้ หัวเว่ยมองว่า บริษัทมีพันธกิจที่จะต้องรับผิดชอบโลกที่ยังขาดการเชื่อมต่อ จึงได้เปิดตัวโครงการสร้างดิจิทัลสำหรับทุกคนที่ชื่อว่า "TECH4ALL" ขึ้นมา
ความปลอดภัยและความเชื่อมั่น : โลกอัจฉริยะที่มีการเชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบสร้างขึ้นจากความปลอดภัยและความไว้วางใจ หัวเว่ยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันความเป็นส่วนตัว ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ยจะลงทุนเป็นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านวิศวกรรมซอฟท์แวร์ให้ล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวที่กำลังส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมโดยรวม
การปกป้องสิ่งแวดล้อม : หัวเว่ยสนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่สะอาด มีประสิทธิภาพและสร้างคาร์บอนต่ำ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุดในระหว่างการผลิต การดำเนินการ และตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์และบริการ หัวเว่ยใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่มีนวัตกรรม เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถเก็บรักษาพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หัวเว่ยได้ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าผลักดันเรื่องการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2561 หัวเว่ยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดเกือบ 932 ล้านกิโลวัตต์/ชม. ซึ่งสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ราว 450,000 ตัน
ระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและสมดุล : หัวเว่ยได้ยกระดับความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะพลเมืองบรรษัท และได้ทำงานร่วมกับลูกค้า พนักงาน ชุมชนท้องถิ่น และพันธมิตรต่างๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและสมดุล ในปี พ.ศ. 2561 หัวเว่ยมีโครงการเพื่อช่วยเหลือชุมชนมากถึง 177 โครงการทั่วโลกเพื่อผลักดันให้ท้องถิ่นมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit