นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "จากความร่วมมือในโครงการ Yamaha Moto Challenge ระหว่าง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กับ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับผู้สนับสนุนโครงการ ได้ดำเนินโครงการมาเข้าสู่ปีที่ 5 ในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสาขาวิชารถจักรยานยนต์ บริษัทฯ มุ่งหวังที่จะพัฒนาต่อยอด องค์ความรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษาผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ตซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนนักศึกษา เพื่อก้าวเข้าสู่สายงานอาชีพด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นการพัฒนานักแข่ง, บุคลากรทางการกีฬา และช่างเทคนิค เพื่อรองรับการเติบโตของวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตต่อไปในอนาคต โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือ 1. เสริมสร้างความสามัคคีและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมระหว่างสถาบันการศึกษา 2.เผยแพร่กีฬาแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ อย่างถูกต้อง ปลอดภัยให้กับนักศึกษาอาชีวะ 3.พัฒนาบุคลากร ต่อยอดองค์ความรู้ทั้งในเชิงเทคโนโลยีวิศวกรรม และการบริหารจัดการทีมแข่งขัน 4.เตรียมความพร้อมบุคลากร เข้าสู่อาชีพทางด้านกีฬาแข่งขันรถจักรยานยนต์
ในนามของบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผมขอขอบคุณ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกท่าน และบริษัทผู้สนับสนุนที่ร่วมโครงการ ทั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนนักศึกษา และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ที่ตั้งไว้ทุกประการ"
สำหรับ 20 สถาบันอาชีวศึกษาเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ จะต้องผ่านการอบรมอย่างเข้มงวดทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติภายใต้หลักสูตร Motorsport Education โดยทีมงานช่างเครื่องจะต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดจากฝ่ายเทคนิคของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์เพื่อทำ
ความเข้าใจกับรถจักรยานยนต์ Yamaha Exciter 150 ใหม่ ที่จะใช้ลงทำการแข่งขัน ในส่วนของนักแข่งจะต้องผ่านการฝึกอบรบการขับขี่ที่ถูกต้อง จากนักแข่งระดับแชมป์ ซึ่งนำโดย เดชา ไกรศาสตร์ แชมป์เอเชียและแชมป์ออลเจแปน และนักแข่งระดับแชมป์ในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม พร้อมกันนี้ทีมแข่งและอาจารย์ผู้ควบคุมทีมจะต้องทำการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กฏ กติกา และมารยาทของการแข่งขัน โดยใช้รูปแบบเดียวกับการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับอาชีพที่ได้รับรองจากสมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย โดยจะจัดให้มีการอบรมก่อนเปิดฤดูกาลแข่ง 2019 ตั้งแต่วันที่ 21 - 23 พฤษภาคม 2562 ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี
โดยมีกำหนดการแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 4 สนาม ดังนี้
สนามที่ 1 สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี 7 - 9 มิ.ย. 2562
สนามที่ 2 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ 22 - 25 ส.ค. 2562
สนามที่ 3 สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี 11 - 13 ต.ค. 2562
สนามที่ 4 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ 14 - 17 พ.ย. 2562
นอกจากกิจกรรมพัฒนาฝีมือและวิชาชีพชั้นสูงในหลักสูตร Motorsport Education แล้ว ทั้ง 20 สถาบันที่เข้าร่วมในโครงการ Yamaha Moto Challenge 2019 นี้ ยังได้ร่วมมือรวมพลังจิตอาสาในการสร้างคนดีของสังคมด้วย "โครงการออกศูนย์บริการชุมชน" พร้อมให้บริการตรวจเช็ค ดูแล ซ่อมบำรุง รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า พร้อมทั้งเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง Yamalube ฟรี ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อีกด้วย
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในฐานะผู้นำด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยให้ก้าวไปสู่ในระดับโลก โดยโครงการ Yamaha Moto Challenge คือพื้นฐานเริ่มต้นของการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการสร้างบุคคลากรรุ่นใหม่ ให้มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพมอเตอร์สปอร์ต เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรองรับกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยที่มีการพัฒนาสู่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง และความสำเร็จของโครงการ Yamaha Moto Challenge ที่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5 ของการจัดโครงการนั้น ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก สมาคมเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และผู้สนับสนุนการแข่งขันซึ่งมีดังต่อไปนี้
น้ำมันเครื่อง ENEOS
น้ำมันเครื่อง YAMALUBE
ชุดและอุปกรณ์แข่งขัน PADDOCK
ยางรถจักรยานยนต์ IRC
โซ่ D.I.D
โช้คอัพ เออร์ลินห์
กล่องไฟ เอเลเซอร์
หัวเทียน NGK
หมวกกันน็อคบิลโมล่า
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย KELA
ท่อ EVO
ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ThreeBond
พักเท้าโมริน
อะไหล่เควิน
ล้อเรซซิ่งบอย
เพจมาดูเจแปน โดย บริษัท อิชิดะ จำกัด