ลักษณะประจำพันธุ์ เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 130 วัน ผลผลิตเฉลี่ย 542 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตสูงสุด 864 กิโลกรัมต่อไร่ ทรงกอตั้ง ความสูงประมาณ 112 เซนติเมตร ลำต้นค่อนข้างแข็ง รวงยาว 28.9 เซนติเมตร ลักษณะรวงแน่นปานกลาง คอรวงยาว จำนวนเมล็ดดีต่อรวง 117 เมล็ด น้ำหนัก 1,000 เมล็ด 26.0 กรัม เปลือกสีดำ ข้าวเปลือกมีความยาวเฉลี่ย 10.58 มิลลิเมตร กว้าง 2.73 มิลลิเมตร หนา 1.98 มิลลิเมตร ข้าวกล้องสีม่วงดำ มีความยาวเฉลี่ย 7.37 มิลลิเมตร กว้าง 2.26 มิลลิเมตร หนา 1.78 มิลลิเมตร จัดเป็นข้าวเจ้าเมล็ดยาว รูปร่างเรียว (อัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 3.26) ท้องไข่น้อย คุณภาพสีดีมาก ได้ข้าวเต็มเมล็ด และต้นข้าวร้อยละ 50.8 มีปริมาณอมิโลสต่ำ ร้อยละ 15.3 อุณหภูมิแป้งสุกต่ำ ข้าวสวยนุ่ม มีกลิ่นหอม ระยะพักตัวของเมล็ด 8 สัปดาห์
"ข้าวพันธุ์นี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง กรดเฟอรูลิค แกมมาออไรซานอล วิตามินอี ฟีนอลิค และฟลาโวนอยด์ เมื่อหุงสุกข้าวสวยเหนียว นุ่ม มีกลิ่นหอม ต้านทานต่อโรคใบไหม้ในระยะกล้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ต้านทานโรคถอดฝักดาบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานและนาน้ำฝนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโรคไหม้ระบาดหรือพื้นที่ที่ต้องการข้าวคุณภาพพิเศษ ซึ่งมีตลาดเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ โดยในขณะนี้ กรมการข้าวกำลังดำเนินการวิจัยต่อยอดการใช้ประโยชน์ข้าวพันธุ์นี้ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ต่อไป" นายประสงค์ กล่าว
นายประสงค์ กล่าวต่อไป ในระหว่างวันที่ 5 – 7 มิถุนายน 2562 กรมการข้าวจะมีการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวระดับประเทศ เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2562 ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2562 ซึ่งทางกรมการข้าวจะได้นำข้าวพันธุ์ กข83 (มะลิดำหนองคาย 62) มาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยทีมงานนักวิจัยมาตอบข้อสงสัย ขอเชิญชาวนาและผู้ที่สนใจมาชมได้ภายในงาน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit