สำหรับงานสัมมนาในครั้งนี้เป็นการเปิดมิติใหม่ด้านการศึกษาในสายงานการศึกษากีฬากอล์ฟ ให้แก่ผู้บริหารระดับองค์กร หรือบุคคลากรกีฬาที่เกี่ยวข้อง อาทิ คุณอำนาจ วิชยารุวัติ รองประหลัดกระทรวงศึกษาธิการ, คุณทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพ และกีฬามวย กกท. พร้อมด้วยผู้บริหารสนามกอล์ฟหลายราย ได้เห็นมุมมองที่หลากหลายในสายงานอาชีพกีฬากอล์ฟในระดับโลก พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนะมุมมองด้านวิชาการที่จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุด ต่อการพัฒนาสายงานอาชีพกอล์ฟของประเทศไทยต่อไปในอนาคต พร้อมกับเป็นการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ในสายงานอาชีพกอล์ฟให้มีมาตรฐานทัดเทียมสากล และพัฒนาแนวทางในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนแก่บุคคลกรกีฬากอล์ฟอาชีพในประเทศไทยด้วย
คุณอำนาจ วิชยารุวัติ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยถึงการสัมมนาครั้งนี้ว่า "เป็นที่น่าชื่นใจ เพราะทัวร์กอล์ฟไทยได้รับการยอมรับจนได้มีการคิดคะแนนอันดับโลก และอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 23 ทัวร์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ถือว่าการทำงานของสมาคมทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียง พัฒนางานอย่างมีประสิทธิภาพ ขอชื่นชม และเป็นกำลังใจให้ อีกทั้งเห็นความพยายาม และความตั้งใจของทีมงานที่จะทำให้การแข่งขันกอล์ฟในเมืองไทยเป็นที่ยอมรับจากในระดับนานาชาติ ในนามของกระทรวงศึกษาธิการนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ผมมีแนวคิดว่าการศึกษาจะต้องมีเครือข่ายแบบนี้ในหลายๆมิติ ไม่ใช่การเรียนการสอนในห้องเรียนอย่างเดียว เราต้องการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยใช้การศึกษาเป็นตัวนำทาง กอล์ฟ ถือเป็นเรื่องที่เราจะต้องมาร่วมมือกัน จับมือกัน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้กอล์ฟอาชีพ ส่งผลให้เด็กเยาวชนได้มีโอกาสด้านอาชีพที่ดีขึ้นในอนาคต"
ด้าน "นายกเอ็กซ์" เมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย เผยว่า "การสัมมนาครั้งนี้เราได้วิทยากรมืออาชีพจาก เดอะ พีจีเอ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่สุดของโลกในการพัฒนากอล์ฟ พัฒนาบุคคลากรเกี่ยวกับกอล์ฟ หรือขยายโอกาสทางด้านอาชีพในอุตสาหกรรมกอล์ฟ เราร่วมกับตรงนี้ถือว่าที่สุดของโลกแล้ว ที่ผ่านมาเราอาจจะคำนึงถึงเรื่องการแข่งขันมากกว่า และไม่คำนึงถึงการวางรากฐานทางการศึกษาเลยเป็นการพัฒนาบุคคลากร เพราะถ้าหากเราจะเรียกตัวเองว่าเป็นอุตสาหกรรมกอล์ฟได้จริง เราจะต้องพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวกับกอล์ฟได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำให้ได้ ไม่ใช่แค่โปรแข่งอย่างเดียว ถือว่านี่เป็นนิมิตรหมายอันดี ซึ่งถ้าต่อยอดได้ เพราะวันนี้เรามีผู้ใหญ่จากวงการราชการที่เกี่ยวข้องหลายท่าน ซึ่งก็แอบฝันลึกๆว่า เราอาจจะเริ่มต้นได้ ตอนนี้ระดับเยาวชนจนถึงทีมชาติทุกอย่างวางมาดีแล้ว แต่ระดับอาชีพ นับจากนี้ไปมันจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และก็แรงมาก เพราะการที่ ออลไทยแลนด์ ได้คิดเวิลด์แรงกิ้ง จะทำให้นักกอล์ฟเริ่มมีโอกาสที่จะก้าวเข้าไปยังทัวร์ใหญ่ๆจากทัวร์เล็กๆ ของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้อาจจะไม่เห็น แต่อาจจะไปเห็นในปี-2 ปีข้างหน้า จะใช้เวลาเท่าไรก็ต้องทำ หากเราต้องเห็นการพัฒนา สำหรับผมมันไม่ใช่หน้าที่แท้จริงในฐานะสมาคมแห่งประเทศไทย คือนอกจากพัฒนาบุคคลากร และต้องสร้างวงการด้วย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้แค่พูด แต่ครั้งนี้ถือว่ามันมีโอกาสที่จะเป็นรูปธรรมที่แท้จริงได้ และการที่เราได้จับมือกับเบอร์หนึ่งของการพัฒนาแล้ว ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณ สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต ที้เหมือนเป็นผู้นำทางไปสู่ เดอะ พีจีเอ หวังว่าทุกอย่างที่เคยฝันไว้มันจะเป็นจริงซักที"