โรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงสามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.โรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด เป็นโรคทางพันธุกรรม สำหรับสุนัขที่มีความเสี่ยง เช่น สายพันธุ์ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ซึ่งในประเทศไทยยังไม่นิยมเลี้ยงมากนัก 2.โรคหัวใจตามความเสื่อมของอายุ สามารถพบได้ในทุกสายพันธุ์ สำหรับแมวก็สามารถพบความผิดปกติได้เช่นกัน โดยมีบางสายพันธุ์ที่มีโรคแฝงทางพันธุกรรมติดมาตั้งแต่กำเนิด โดยเฉพาะพันธุ์เปอร์เซีย เมนคูน ที่จะมีโอกาสเป็นกลุ่มโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวได้
"หัวใจของสุนัข มี 4 ห้อง เหมือนกับหัวใจของคน ในขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยจะใช้วิธีเดียวกัน โดยเราจะใช้เครื่องมือตรวจดูขนาดของหัวใจ ลักษณะของลิ้นหัวใจว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ กล้ามเนื้อหัวใจหนาเพียงพอไหม ดูจังหวะการเต้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และในบางตัวอาจมีการวัดค่า เพื่อดูการบีบตัวว่าเข้ากันหรือไม่ หลังจากทำการตรวจด้วยเครื่องมือแล้ว จะได้ผลซึ่งออกมาเป็นค่าการตรวจ เราจะนำมาเทียบกับค่ามาตรฐาน จึงแนะนำเจ้าของให้นำสัตว์เลี้ยงมารับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ1ครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง" น.สพ.อุกฤษฏ์กานต์ กล่าว
สำหรับศูนย์โรคหัวใจของ รพส.ทองหล่อ จะมีบริการตรวจด้วยเครื่องมือเฉพาะที่มีความทันสมัยและให้ความแม่นยำสูง และมีความคล้ายกับเครื่องมือของคน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องถ่ายภาพรังสีด้วยระบบ Digital x-ray ที่มีความรวดเร็วในการประมวลผล ทำให้สามารถอ่านผลเพื่อวินิจฉัยได้ดีขึ้น ช่วยให้เห็นความผิดปกติของโครงสร้างของหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจโต ภาวะน้ำท่วมปอด เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiography) ตรวจหาความผิดปกติของโครงสร้างและการทำงานของหัวใจได้อย่างแม่นยำ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography) ประเมินจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะแบบเฉียบพลัน ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิต
นอกจากนี้ น.สพ.อุกฤษฏ์กานต์ ยังได้แนะนำวิธีสังเกตุอาการของสัตว์เลี้ยงในเบื้องต้นว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจหรือไม่ โดยในสัตว์เลี้ยงแรกเกิด หากในคอกมีหลายตัว ส่วนใหญ่ตัวที่เล็กที่สุดจะมีความเสี่ยงมากกว่าที่จะเกิดความผิดปกติในระบบต่างๆ ส่วนในสุนัขสูงวัยจะมีอาการเหนื่อยหอบง่าย ไอแห้ง มีอาการบวมน้ำตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือมีอาการลิ้นม่วง หากมีอาการเหล่านี้ควรพาไปพบสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ หรือนำมาตรวจได้ที่ ศูนย์โรคหัวใจ รพส.ทองหล่อ สาขาสิรินธร-ปิ่นเกล้า พร้อมให้บริการ 24 ชม. รายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/ThonglorPet หรือ Line: @jaothonglor
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit